นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความ ให้สัมภาษณ์ในรายการ “แชร์เล่าข่าวเด็ด” ทางคลื่น MCOT NEWS FM100.5 ถึงกรณีความคืบหน้าคดีของทนายตั้ม หลังอัยการมีคำสั่งฟ้องในคดีฉ้อโกงและข้อหาอื่น ๆ โดยระบุว่า ทนายตั้มและภรรยาได้ยื่นขอประกันตัว แต่ศาลปฏิเสธเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เสี่ยงต่อการหลบหนี เคลื่อนย้ายทรัพย์สิน หรือยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว
นายเกิดผล กล่าวว่า การปฏิเสธประกันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะหากทนายตั้มไม่มีพฤติกรรมส่อเจตนาหลบหนีหรือข่มขู่เจ้าหน้าที่ตั้งแต่แรก ศาลอาจพิจารณาแตกต่างไป อย่างไรก็ตาม ทนายตั้มยังสามารถยื่นขอประกันตัวใหม่ได้ แต่ต้องมีข้อเท็จจริงหรือพฤติการณ์ใหม่ที่ชัดเจน เพราะการยื่นซ้ำโดยไม่มีความเปลี่ยนแปลงอาจไม่ช่วยให้ศาลเปลี่ยนแปลงคำสั่ง
นอกจากนี้ สำหรับความคืบหน้าคดี ศาลนัดสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อพิจารณาว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธข้อกล่าวหา หากรับสารภาพ ศาลอาจไม่อนุญาตให้ประกันตัวเพราะเสี่ยงหลบหนี แต่หากปฏิเสธ ศาลอาจพิจารณาใหม่หากมีเหตุผลเพียงพอ
นายเกิดผล กล่าวต่อว่า เมื่อถูกถามถึงโอกาสในการรอดพ้นคดี นายเกิดผลยอมรับว่า “คดีนี้สู้อยาก รอดยาก” เพราะพยานหลักฐานที่ปรากฏมีน้ำหนักมาก แม้ทนายตั้มจะโต้แย้งในประเด็นข้อกฎหมายหรือความไม่สมบูรณ์ของหลักฐานได้ แต่ก็ยังยากที่จะพลิกสถานการณ์
ฉะนั้น ผลกระทบจากคดีนี้ไม่ได้จำกัดแค่การพิจารณาคดีอาญาเท่านั้น แต่ยังกระทบต่อวิชาชีพทนายความ หากถูกตัดสินว่ามีความผิด ทนายตั้มอาจถูกลงโทษทางวินัยถึงขั้น ลบชื่อออกจากสภาทนายความ หรือ พักใช้ใบอนุญาต ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถว่าความได้ อย่างไรก็ตาม ยังสามารถทำงานในบทบาทที่ปรึกษากฎหมายหรือผู้ช่วยทนายความได้ในบางกรณี
นายเกิดผล กล่าวอีกว่า คดีนี้มีผลกระทบทางเศรษฐกิจสูง เนื่องจากความเสียหายทางการเงินกว่า 111 ล้านบาท ศาลจึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของทนายตั้ม ภรรยา และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการถ่ายโอนหรือซ่อนเร้นทรัพย์ แม้ยังสามารถอยู่อาศัยในทรัพย์สินที่ถูกอายัดได้ แต่ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ ขาย หรือจำนองจนกว่าคดีจะสิ้นสุด หากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง อาจนำไปสู่การล้มละลาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพและการใช้ชีวิตในระยะยาว ส่วนโทษทางอาญาหากทนายตั้มมีความผิดจริง โทษสูงสุดไม่เกิน 20 ปี แม้ว่าจะมีหลายกระทงความผิดก็ตาม โดยรวมถึงโทษปรับและการริบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย
“คดีนี้สู้อยาก รอดยาก แต่ยังไม่ถึงขั้นสิ้นหวัง ทุกอย่างต้องรอการพิจารณาอย่างรอบคอบในกระบวนการยุติธรรม” นายเกิดผล กล่าวทิ้งท้าย