นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ให้สัมภาษณ์ในรายการ “แชร์เล่าข่าวเด็ด” ทางคลื่น MCOT NEWS FM 100.5 ถึงการตัดไฟและสัญญาณโทรศัพท์ เพื่อสกัดขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมา ซึ่งส่งผลให้ธุรกิจผิดกฎหมายชะลอตัวลง แต่ไม่สามารถหยุดขบวนการได้ทั้งหมด เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้า โดยใช้เครื่องปั่นไฟและช่องทางสื่อสารสำรอง

นายกัณวีร์ กล่าวว่า จากผลกระทบดังกล่าวนี้ ทำให้พบเหยื่อค้ามนุษย์อย่างน้อย 25 สัญชาติ รวมกว่า 6,500 คน ในเมืองเยาวดี ซึ่งถูกหลอกให้มาทำงาน และถูกบังคับให้เป็นสแกมเมอร์ (หลอกลวงออนไลน์) บางคนต้องจ่ายเงินหลักแสนบาทเพื่อไถ่ตัวเอง ขณะที่บางส่วนพยายามหลบหนี นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับขบวนการค้าอวัยวะในพื้นที่ ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย

นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลไทยต้องเร่งดำเนินการช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ โดยอาศัยกลไกทางกฎหมายที่มีอยู่ ได้แก่ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นกฎหมายหลักในการจัดการกับขบวนการค้ามนุษย์ โดยกำหนดแนวทางคุ้มครองเหยื่อและการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด รวมถึงการใช้ระบบคัดกรองเหยื่อค้ามนุษย์ เพื่อแยกแยะเหยื่อที่แท้จริงและผู้ที่อาจเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการโดยสมัครใจ ผ่านกลไกสหวิชาชีพในการตรวจสอบ และการประสานงานจากศูนย์สั่งการชายแดนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือเหยื่อที่สามารถหลบหนีออกมาได้

นายกัณวีร์ กล่าวอีกว่า ไทยไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้เพียงลำพัง เพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่หลบหนีออกมาได้ให้ปลอดภัย โดยต้องอาศัยการทำงานเชิงรุกกับเครือข่ายในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงกลุ่มที่มีอิทธิพลในเขตชายแดนเมียนมา ที่สามารถเปิดทางให้เหยื่อได้รับความช่วยเหลือ รวมถึงการเจรจากับหน่วยงานที่สามารถดำเนินการได้จริง หากสามารถกวาดล้างแก๊งคอลเซนเตอร์ได้ทั้งหมด จะมีเหยื่อจำนวนมากทะลักออกมาในคราวเดียว ซึ่งอาจสูงถึงแสนคน ทำให้รัฐบาลไทยต้องมีแผนรองรับที่ชัดเจน เพื่อช่วยเหลือเหยื่อเหล่านี้อย่างเป็นระบบ และส่งตัวกลับประเทศของตนเองอย่างปลอดภัย

“การปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ต้องทำอย่างจริงจังและเป็นระบบ โดยอาศัยกลไกที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งดำเนินการเชิงรุกในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อต้องกลับเข้าสู่วงจรค้ามนุษย์อีกต่อไป” นายกัณวีร์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม การปราบปรามขบวนการค้ามนุษย์ต้องทำอย่างจริงจังและเป็นระบบ โดยอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายทั้งในและต่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้เหยื่อต้องตกอยู่ในวังวนของขบวนการค้ามนุษย์อีกต่อไป