จากกรณีรัฐบาลและสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีคำสั่งระงับการส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังเมียนมาใน 5 จุด ส่งผลให้ประชาชนเมียนมาจำนวนมากเดินทางข้ามฝั่งมายัง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อเติมน้ำมัน เนื่องจากปริมาณน้ำมันใน จ.ท่าขี้เหล็ก และ จ.เชียงตุง ลดลง ขณะที่บางปั๊มน้ำมันในเมียนมาจำกัดปริมาณการเติม หรือห้ามนำใส่ถังกลับ

ทั้งนี้ นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มีหนังสือด่วนที่สุดที่ ชร 0015/ว 3826 ลงวันที่ 7 ก.พ.2568 แจ้งเตือนไม่ให้มีการกรอกน้ำมันลงในภาชนะ ถังน้ำมัน กระป๋องหรือแกลลอน ในเขตสถานีบริการน้ำมัน โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลได้ดำเนินการสกัดกั้นขบวนการหลอกลวงหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ อาชญากรรมตามแนวชายแดนของประเทศ จึงได้มีมาตรการดังกล่าวโดยกรณีของ จ.เชียงราย มีการงดส่งกระแสไฟฟ้า น้ำมันเชื้อเพลิง และอินเตอร์เน็ตด้วย จำนวน 2 จุดคือ สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 และบ้านเหมืองแดง อ.แม่สาย ซึ่งผลการดำเนินการพบว่ามีรถจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านข้ามมาเติมน้ำมันในฝั่งไทยเป็นจำนวนมาก และมีการนำภาชนะมาใส่ด้วย

จ.เชียงราย พิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมน้ำมันเชื้อเพลิงปี 2542 มาตรา 4 เนื่องจากสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงต้องให้บริการแก่ยานพาหนะเท่านั้น ประกอบกับรัฐบาลไทยได้ดำเนินการงดส่งออกตามแนวชายแดนดังกล่าว จึงแจ้งไปยังผู้ประกอบการให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อย่างไรก็ตามปัจจุบันไทยได้งดส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังเมียนมาใน 5 จุด ได้แก่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 2 จุด, อ.แม่สอด จ.ตาก 2 จุด และ จ.กาญจนบุรี 1 จุด ส่งผลให้เกิดความโกลาหลในฝั่งเมียนมา โดยเฉพาะปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งยังไม่มีจุดนำเข้าที่แน่ชัด นอกเหนือจากฝั่งไทย ทำให้ประชาชนจำนวนมากข้ามแดนมาเติมน้ำมันในไทย