นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน, อดีตนายกรัฐมนตรี, และตัวแทนพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาลในปัจจุบัน พร้อมคณะเดินทางเยือนโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส
ในระหว่างการพบปะคณะครูและอาจารย์ที่มารอต้อนรับ นายทักษิณกล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการสลายการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อปี 2547 โดยยืนยันว่า ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจและห่วงใยประชาชนอย่างเต็มที่ แต่ยอมรับว่าการทำงานมีความผิดพลาดบ้าง หากมีสิ่งใดที่ประชาชนไม่พอใจ ก็ขออภัยและขอให้ช่วยกันในการแก้ไขปัญหาต่อไป พร้อมกล่าวถึงการให้อภัยและความเข้าใจซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนมุสลิม
“ตอนเป็นนายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจและห่วงใยประชาชน 100% แต่การทำงานก็มีผิดพลาดได้บ้าง ถ้ามีอะไรผิดพลาด ที่ไม่พอใจ ก็ขออภัยด้วย ให้ช่วยกันเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งคนมุสลิมจะมีสิ่งที่สำคัญมาก คือ ความเข้าใจเกรงใจเเละการให้อภัย ผมก็ขออภัยด้วย” นายทักษิณกล่าว
นายทักษิณยังกล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในรถยนต์เจ้าหน้าที่ ภายในสนามบินบ้านทอน อ.เมืองนราธิวาส ก่อนเดินทางถึงสนามบินว่า เป็นเพียงการแสดงเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น และแม้ว่าจะทำให้เขาตกใจ แต่ตนเองก็รู้สึกใจแข็งเนื่องจากเคยถูกลอบฆ่ามาแล้วถึง 4 ครั้ง จึงไม่รู้สึกหวั่นไหว
ในส่วนของการแก้ปัญหาสันติสุขในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายทักษิณกล่าวว่า การร่วมมือระหว่างประเทศในการพูดคุยเพื่อสันติสุขจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนจากอินโดนีเซียที่เข้ามาช่วยในการเจรจา และคาดหวังว่าจะมีความคืบหน้าในปีนี้
นายทักษิณยังกล่าวถึงบุคคล 2 สัญชาติที่เดินทางข้ามไปมาระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้านว่า หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การข้ามไปมาจะไม่มีปัญหา แต่หากเกี่ยวข้องกับกิจกรรมก่อการร้าย ก็จำเป็นต้องมีความร่วมมือในการป้องกันมากขึ้น
ในประเด็นการนิรโทษกรรม นายทักษิณกล่าวถึงคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี 66/2523 ที่อาจจะกลับมาใช้ใหม่ โดยยืนยันว่าทุกอย่างสามารถปรับได้ ขึ้นอยู่กับการพูดคุยและหาวิธีให้ผู้ที่เคยผิดพลาดได้สำนึกผิดและกลับมาสู่สังคม
สุดท้าย นายทักษิณกล่าวถึงการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงในทัศนคติของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งมีการต้อนรับที่ดีขึ้น และเชื่อว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการแก้ปัญหาสันติสุขในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ในการแก้ไขปัญหานี้