จีนจับตาปี 2025 ประชุม 2 สภา เตรียมขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนวัตกรรม

ja(226)

 

ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร อดีตอัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) ณ กรุงปักกิ่ง รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน เผยในรายการ “Marketing News Update” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM100.5 ว่า ปี 2025 เป็นปีที่น่าจับตาสำหรับจีนและไทย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงเชิงเศรษฐกิจและนโยบายสำคัญของรัฐบาลจีน ปีนี้ถือเป็นปีสุดท้ายของไตรมาสแรกแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งจีนประสบความสำเร็จในการพัฒนาภาพรวมหลายด้าน พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ในวันที่ 5 มีนาคมนี้ จีนจะจัดการประชุม 2 สภา หรือ “เหลี่ยงหุ้ย” ซึ่งเป็นเวทีการเมืองสำคัญของประเทศ คาดว่าจะมีการกำหนดแนวทางเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5% ท่ามกลางความท้าทายหลายประการ เช่น การเพิ่มระดับความโปร่งใสในการตรวจสอบภายในพรรคคอมมิวนิสต์ ความกดดันจากฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ และปัญหาการว่างงาน โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นในเขตเมืองที่มีอัตราการว่างงานสูงถึง 20% นอกจากนี้ การบริโภคภายในประเทศยังคงซบเซา อัตราการเติบโตของค้าปลีกในปีที่ผ่านมาอยู่ที่เพียง 3% ต่ำที่สุดในรอบหลายปี และสัดส่วนการบริโภคต่อ GDP ลดลงต่ำกว่า 40% ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญที่รัฐบาลต้องแก้ไข

คาดว่าที่ประชุม 2 สภาจะมีมาตรการกระตุ้นการบริโภค ฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคเอกชน รวมถึงการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการผลิต จีนยังคงให้ความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรมและนวัตกรรม เช่น นโยบาย Made in China 2025 ซึ่งจะครบ 10 ปีในปีนี้ โดยตลอดทศวรรษที่ผ่านมา จีนสามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากตะวันตก และพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองจนกลายเป็นผู้นำในหลายด้าน เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ที่บริษัท BYD สามารถแซง Tesla ในยอดขาย รถไฟความเร็วสูง CR450 ที่จะเปิดให้บริการในปีนี้ด้วยความเร็ว 450 กม./ชม. รวมถึงการทดลองรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้าความเร็ว 600-1,000 กม./ชม.

จีนยังประสบความสำเร็จในการพัฒนาโดรน อวกาศ และหุ่นยนต์ โดยเฉพาะหุ่นยนต์ที่สามารถเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น รวมถึงการพัฒนา AI และวัสดุใหม่ ๆ ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต ที่ประชุม 2 สภาปีนี้จึงมีความสำคัญต่อทิศทางของจีนในทศวรรษต่อไป โดยรัฐบาลจีนมีบทบาทนำเศรษฐกิจอย่างชัดเจน มติจากที่ประชุมจะเป็นแนวทางสำคัญให้ทั้งภาครัฐและเอกชนขับเคลื่อนประเทศต่อไป

สำหรับไทย การประชุม 2 สภาของจีนเป็นโอกาสสำคัญในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจกับจีน ซึ่งกำลังขยายการลงทุนในต่างประเทศ หากไทยสามารถดึงดูดการลงทุนและร่วมเป็นห่วงโซ่อุปทานของจีนได้ จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจในอนาคต

#จีน #เศรษฐกิจจีน #เหลี่ยงหุ้ย #MadeInChina2025 #การลงทุน #BYD #รถไฟความเร็วสูง #AI #นวัตกรรม #MCOTNEWS

แท็ก