ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 1 (ศรชล.ภาค 1) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวว่า พบเรือประมงเวียดนามรุกล้ำเข้ามาทำการประมงในน่านน้ำไทย บริเวณเขตเศรษฐกิจจำเพาะ ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์เป็นต้นมา โดยมีจำนวนประมาณ 10 ลำ ประกอบด้วยเรือประมงลากคู่ เรืออวนล้อม และเรือไดปั่นไฟ ซึ่งลักลอบทำประมงในช่วงกลางคืน และจะออกจากพื้นที่ไปจอดพักคอยในช่วงกลางวัน

ศรชล.ภาค 1 จึงประสานขอกำลังสนับสนุนจากทัพเรือภาคที่ 1 (ทรภ.1) กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) และหมวดเรือลาดตระเวนชายแดน (มชด.) โดยได้รับการสนับสนุนเรือ ร.ล.เทพา และ เรือ ต.264 พร้อมเครื่องบินลาดตระเวน บ.ตช.1 จากฐานทัพเรืออู่ตะเภา เพื่อเข้าตรวจสอบ

คืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 20.00 น. ร.ล.เทพา และ เรือ ต.264 ออกเรือจากฐานทัพเรือภาคที่ 1 กระทั่งเวลา 03.00 น. ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เครื่องบิน บ.ตช.1 ตรวจพบเรือประมงต้องสงสัย 5 ลำในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย จึงแจ้งพิกัดให้เรือรบเข้าตรวจสอบ

เวลา 04.00 น. ร.ล.เทพา และ เรือ ต.264 พบเรือประมงเวียดนาม 4 ลำและเข้าทำการจับกุม แต่เรือเหล่านั้นขัดขืนและพยายามพุ่งชนเรือรบไทย เพื่อเปิดทางให้เรือประมงลำอื่นหลบหนีออกจากน่านน้ำไทย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมเรือเวียดนามได้ 1 ลำ พร้อมลูกเรือ 4 คน ส่วนเรือที่เหลือเร่งเครื่องหลบหนีไปยังนอกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของไทย

หลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำเรือและลูกเรือทั้งหมดเข้าฝั่งที่สะพานอเนกประสงค์ อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งขอบคุณชาวประมงไทยที่แจ้งเบาะแสและให้ความร่วมมือในการปกป้องทรัพยากรทางทะเลของชาติ