นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 โดยขอให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติไม่ไว้วางใจเนื่องจากมีพฤติการณ์ที่ไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินต่อไป
ญัตติดังกล่าวระบุว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ขาดคุณสมบัติและความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ โดยเฉพาะขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่สามารถแก้ปัญหาต่างๆ ของประเทศชาติได้ นอกจากนี้ยังได้กล่าวหาว่านางสาวแพทองธาร ลอยตัวอยู่เหนือปัญหาของประเทศและไม่ยอมรับผิดชอบต่อการทำหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ส่วนตัว ครอบครัว และพวกพ้องเป็นหลัก มากกว่าผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติและประชาชน
ตามญัตติที่ยื่นต่อสภาฯ ฝ่ายค้านได้ชี้ให้เห็นถึงการทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศชาติจากการบริหารงานของนายกรัฐมนตรี ที่ไม่แสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์สุจริต และพฤติการณ์ที่เอาเปรียบประชาชน รวมถึงไม่ดำเนินการตามนโยบายที่เคยสัญญากับประชาชนไว้อย่างเต็มที่ โดยการบริหารบ้านเมืองในหลายๆ ด้าน เช่น การเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต ยังประสบความล้มเหลวอย่างร้ายแรง ส่งผลให้เกิดปัญหามากมายในหลายภาคส่วน
นอกจากนี้ ญัตตินี้ยังระบุถึงการที่นางสาวแพทองธารปล่อยปละละเลยและทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชันภายใต้การบริหารงานของตนเอง และการทุจริตเชิงนโยบายที่เอื้อผลประโยชน์ให้แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน โดยการแต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ความสามารถ หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไปดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล รวมถึงการบริหารงานที่ไม่โปร่งใสและไม่สามารถแก้ไขปัญหาของประเทศได้
หนึ่งในข้อกล่าวหาหลักคือ การที่นางสาวแพทองธาร ยินยอมให้ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำและคอยควบคุมการทำงานของรัฐบาล รวมถึงประพฤติตนเสมือนเป็นนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยที่บิดาของเธอมีอำนาจในการตัดสินใจสำคัญแทนตนเอง และไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจอย่างตรงไปตรงมา การกระทำเช่นนี้ส่งผลให้การบริหารประเทศขาดความเป็นอิสระและมีการแทรกแซงจากภายนอกที่ทำให้ประเทศเสียหาย
ฝ่ายค้านยังได้ยื่นคำร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบรัฐมนตรีอีก 9 คนที่มีพฤติกรรมผิดปกติ และการกระทำที่อาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตคอร์รัปชัน เพื่อให้เกิดการตรวจสอบและการปรับปรุงการทำงานของรัฐบาลให้โปร่งใส
ฝ่ายค้านขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาญัตติอย่างเร่งด่วน และจะมีการแถลงรายละเอียดเพิ่มเติมในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในครั้งถัดไป