ดีเอสไอยอมรับว่ารายชื่อพยานคดีฮั้ว สว.67 จำนวน 1,200 ราย ที่หลุดว่อนโซเชียลมีความถูกต้องถึง 99.5% โดยขาดเพียงระดับหัวหน้าแก๊งและทีมบริหาร 0.5%

แหล่งข่าวจากบอร์ดคดีพิเศษเผยว่า ในวันที่ 6 มีนาคมนี้ หากบอร์ดมีมติรับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ดีเอสไอเตรียมทยอยออกหมายเรียกพยานสอบปากคำ และอาจมีการเปลี่ยนสถานะจากพยานเป็นผู้ต้องหา หากพบหลักฐานเชื่อมโยงการกระทำผิด คดีนี้ถูกมองว่าเป็นการทุจริตในระดับเครือข่าย มีผู้ร่วมขบวนการกว่า 10,000 ราย โดยใช้เทคโนโลยีและหลักคณิตศาสตร์วางแผนเลือกตั้ง นอกจากนี้ บอร์ด กคพ. เตรียมเชิญ กกต. ร่วมประชุมเพื่อชี้แจง แต่คาดว่า กกต. อาจไม่เข้าร่วม หากคดีนี้ได้รับการพิจารณาให้เป็นคดีพิเศษ จะเน้นดำเนินคดีในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจรและฟอกเงิน ขณะที่ความผิดในส่วนของ กกต. อาจถูกส่งต่อให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป

นอกจากนี้บอร์ด กคพ. ต้องการดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และมีข้อกังวลว่า กกต. และดีเอสไอไม่เคยทำคดีร่วมกันมาก่อน ปกติแล้ว กกต. มักขอความร่วมมือจากตำรวจในคดีอาญาเล็กน้อย เนื่องจากไม่มีห้องควบคุม นักสืบสวน หรือเครื่องมือเทคโนโลยีสำหรับสืบสวนสอบสวน ด้วยเหตุนี้ บอร์ด กคพ. จึงต้องการเชิญ กกต. มาหารือเกี่ยวกับแนวทางดำเนินคดีร่วมกัน

อย่างไรก็ตามวันที่ 6 มี.ค. บอร์ด กคพ. จะต้องตัดสินใจว่าจะรับคดีฮั้ว สว. เป็นคดีพิเศษหรือไม่ โดยประธานกรรมการเห็นควรให้รับเฉพาะคดีอั้งยี่ซ่องโจรและคดีฟอกเงิน ส่วนคดีที่เกี่ยวข้องกับ กกต. ไม่ต้องรับ และให้ส่งเรื่องคืน กกต. เพื่อดำเนินการส่งต่อ ป.ป.ช. ตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป