ที่หน้าอาคาร SKYY9 Centre ย่านพระราม 9 น.ส. รักชนก ศรีนอก ส.ส. กรุงเทพมหานคร และ นายสหัสวัต คุ้มคง ส.ส. ชลบุรี จากพรรคประชาชน แถลงข่าวเกี่ยวกับการลงทุนที่มีข้อสงสัยของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) โดยเฉพาะการซื้ออาคารในย่านพระราม 9 ในราคาที่สูงกว่ามูลค่าจริงถึง 4 พันล้านบาท
น.ส. รักชนกกล่าวว่า การลงทุนที่ผิดพลาดในกรณีนี้เป็นเรื่องใหญ่สำหรับกองทุนประกันสังคม ซึ่งมีมูลค่าถึง 2.6 ล้านล้านบาท การซื้ออาคารแห่งนี้ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3 พันล้านบาท ด้วยราคาสูงถึง 7 พันล้านบาทในปี 2565-2566 ทำให้เกิดคำถามถึงการบริหารจัดการที่ขาดธรรมาภิบาล โดยระบุว่าในช่วงที่อาคารถูกซื้อเข้ามามีอัตราการเช่าต่ำเพียง 1% เท่านั้น ในขณะที่ตัวเลขที่สำนักงานประกันสังคมรายงานว่าเป็น 40% อาจไม่ตรงกับความเป็นจริง และยังตั้งข้อสังเกตว่า การคาดการณ์ผลกำไรในอนาคตยังห่างไกลจากความเป็นจริงอย่างมาก
น.ส. รักชนกยังกล่าวต่อไปว่า หากดำเนินการด้วยอัตรากำไรที่ต่ำเช่นนี้ กองทุนประกันสังคมจะต้องใช้เวลานานถึง 30 ปีในการคืนทุนจากการลงทุนครั้งนี้ และตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดถึงมีการลงทุนในตึกเดียวทั้งที่สามารถกระจายความเสี่ยงไปยังแหล่งอื่นๆ ได้
ในขณะเดียวกัน นายสหัสวัตได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในการตัดสินใจลงทุนครั้งนี้ มีการตั้งอนุกรรมการการลงทุนซึ่งประกอบด้วยบุคคลที่มีความใกล้ชิดกับรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานในขณะนั้น และยังตั้งข้อสงสัยว่า มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองในการตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวหรือไม่ โดยเฉพาะการที่มีการโยกย้ายข้าราชการที่เป็นเด็กหน้าห้องของรัฐมนตรีเข้ามามีบทบาทในการทำดีลครั้งนี้
ทั้งสองยังกล่าวหาว่าการซื้ออาคารในครั้งนี้อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับนักการเมืองบางกลุ่ม และเรียกร้องให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องนี้อย่างจริงจัง พร้อมทั้งขอให้การลงทุนของสำนักงานประกันสังคมต้องโปร่งใสและไม่เปิดช่องให้นักการเมืองเข้ามาแทรกแซงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
นายสหัสวัตสรุปว่า การลงทุนของสำนักงานประกันสังคมควรมีการปฏิรูปและทำให้เกิดความโปร่งใส โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานควรตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อหาความจริงในกรณีการลงทุนที่น่าสงสัยนี้ และต้องมีการติดตามการตัดสินใจในอนาคตเกี่ยวกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกันในอนาคต
