พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยหลังการตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายไปตรวจสอบข้อเท็จจริงการเสียชีวิตในเรือนจำของ ‘อดีตผู้กำกับโจ้’ ว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้กรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดเผยหลักฐานต่าง ๆ ที่มีอยู่ออกมาโดยไม่ขัดกับหลักกฎหมายหรือสิทธิส่วนบุคคล โดยแยกคดีนี้เป็นสองส่วน คือ คดีการเสียชีวิต และคดีมูลเหตุจูงใจที่นำไปสู่การเสียชีวิต

พ.ต.อ.ทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อคณะอนุกรรมการฯ ได้ไปสังเกตการณ์การประชุมกับผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมเมื่อวานนี้ ยังไม่มีรายงานเข้ามา แต่ขอยืนยันว่าเรามีความเสียใจกับผู้สูญเสียและจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ส่วนที่ครอบครัวของ ‘อดีตผู้กำกับโจ้’ ยังคงสงสัยเกี่ยวกับการแถลงข่าวของกรมราชทัณฑ์ที่ขัดแย้งกับข้อเท็จจริงที่ได้รับจากครอบครัวนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การสอบสวนจะต้องทำโดยตรงและโปร่งใส โดยจะมีตำรวจเข้าร่วมในคณะอนุกรรมการฯ และหากพบว่าเรือนจำขัดขวางการสอบสวนก็จะดำเนินการอย่างเข้มงวด

กรณีที่มีข่าวว่าเรือนจำไม่ให้ตำรวจเข้าตรวจสอบการทำร้ายร่างกายของ ‘อดีตผู้กำกับโจ้’ ซึ่งได้รับใบรับรองทางการแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ชัดเจน ว่าถูกของแข็งกระแทกเข้าที่ลำตัวนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าหากการกระทำนี้เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการซ้อมทรมานฯ จะมีมาตรการทางปกครองและดำเนินคดีอาญาทันที พร้อมย้ำว่าตำรวจสามารถสอบสวนได้ไม่ว่าคดีจะเกิดขึ้นที่ใด รวมถึงในเรือนจำ

แม้ว่า ‘อดีตผู้กำกับโจ้’ จะเสียชีวิตแล้ว คดีอาญายังไม่สิ้นสุด เนื่องจากผู้กระทำความผิดยังสามารถถูกสอบสวนจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ เช่น กล้องวงจรปิด พยานแวดล้อม และพยานบุคคล โดยขอให้กรมราชทัณฑ์นำกล้องวงจรปิดตัวเต็มที่ไม่ผ่านการตัดต่อมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ

พ.ต.อ.ทวี ยังกล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมจะยกระดับเรือนจำให้เป็นสถานที่ฟื้นฟูเพื่อให้ผู้ต้องขังกลับไปสู่สังคมในฐานะคนใหม่ และยืนยันว่าเรือนจำไม่ใช่ศาล และทุกคำถามควรได้รับคำตอบจากกระบวนการยุติธรรมที่โปร่งใส.