คืบหน้าเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี คาดเปิดให้บริการได้ใน 1 สัปดาห์
ที่คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี แถลงถึงความคืบหน้ากรณีเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นบริเวณอาคารหลักของโรงพยาบาลในช่วงกลางดึกของวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา โดยขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความช่วยเหลือ และคาดว่าโรงพยาบาลจะสามารถกลับมาให้บริการผู้ป่วยได้ตามปกติในเร็วๆ นี้ ขึ้นอยู่กับความพร้อมของอาคารสถานที่
ส่วนผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ห้องผ่าตัดและห้องคลอดปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้ และยังไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้ แม้ว่าประตูทางเข้าจะได้รับความเสียหาย แต่อุปกรณ์ทางการแพทย์ยังคงอยู่ในสภาพดี อย่างไรก็ตาม ห้องที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด ได้แก่ ห้องรังสีวิทยาและพยาธิวิทยา แต่จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบการรั่วไหลของรังสี
ด้านผู้ป่วยทั้งหมดได้รับการเคลื่อนย้ายอย่างปลอดภัย มีเพียงบุคลากรของโรงพยาบาล 1 รายที่สำลักควันและกำลังอยู่ระหว่างการรักษา
คลังเลือดได้รับผลกระทบ จำเป็นต้องรับบริจาคเพิ่มเติม ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ระหว่างปฏิบัติการดับเพลิง จำเป็นต้องตัดระบบไฟฟ้า ทำให้เลือดที่ต้องแช่เย็นเสียหายทั้งหมด คาดว่าปริมาณเลือดที่ได้รับผลกระทบอยู่ที่ ประมาณ 50-100 ยูนิต ส่งผลให้เคสผ่าตัดที่ต้องใช้เลือดจำนวนมากอาจต้องเลื่อนออกไปก่อน
ทางโรงพยาบาลได้ประสานงานกับสภากาชาดไทยในการรับบริจาคเลือดเพิ่มเติม และขอความร่วมมือให้เลื่อนการผ่าตัดใหญ่ที่สามารถเลื่อนได้ในช่วง 1-2 วันนี้ โดยในระหว่างนี้จะใช้ คลังเลือดย่อยของศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตน์ ไปก่อน ทั้งนี้ หากสถานที่พร้อม โรงพยาบาลอาจเปิดรับบริจาคเลือดจากประชาชนทั่วไปต่อไป
ส่วนโครงสร้างอาคาร ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ ยืนยันว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น โครงสร้างอาคารยังอยู่ในสภาพปกติ แต่จะมีการตรวจสอบเชิงลึกโดยวิศวกรอีกครั้ง คาดว่าไม่เกิน 1 สัปดาห์จะสามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ยกเว้นห้องต้นเพลิงและห้องที่อยู่ใกล้เคียง
“พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษคือบริเวณ ชั้น 3 และชั้น 4 ซึ่งมีอุปกรณ์วิเคราะห์ทางการแพทย์ที่มีมูลค่าสูง โดยเฉพาะเครื่องตรวจเลือดและสารเคมีในเลือด ซึ่งต้องทำการทดสอบทีละเครื่องว่ายังสามารถใช้งานได้หรือไม่” ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ กล่าว
ทั้งนี้ โรงพยาบาลรามาธิบดีจะรายงานความคืบหน้าเพิ่มเติมเป็นระยะ พร้อมขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนในสถานการณ์ครั้งนี้