สำนักข่าวซินหัว อ้างรายงานเมื่อวันจันทร์ (17 มี.ค.) ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวกับสื่อมวลชนหลังจากประชุมคณะกรรมการศูนย์ศิลปะการแสดงจอห์น เอฟ. เคนเนดี ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ของสหรัฐฯ ว่าจะเปิดเผยแฟ้มเอกสารฉบับไม่ปกปิดข้อมูล จำนวน 80,000 หน้า ซึ่งเกี่ยวกับเหตุลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี ในวันอังคาร (18 มี.ค.)
จอห์น เอฟ. เคนเนดี ประธานาธิบดีคนที่ 35 ของสหรัฐฯ ถูกลอบสังหารระหว่างนั่งอยู่บนรถยนต์ของขบวนผู้นำในเมืองดัลลัสของรัฐเท็กซัสเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 1963 และมีการจับกุมลี ฮาร์วีย์ ออสวอลด์ ในข้อหาฆาตกรรม ทว่าทฤษฎีสมคบคิดมากมายเกี่ยวกับเหตุการณ์เสียชีวิตอย่างน่าสลดของออสวอลด์ในสองวันถัดมายังคงแพร่หลายมาจนถึงทุกวันนี้
ทั้งนี้ ปี 1992 รัฐสภาคองเกรสของสหรัฐฯ กำหนดการเปิดเผยเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ลอบสังหารสู่สายตาสาธารณชนภายใน 25 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 26 ต.ค. 2017
ทรัมป์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยแรกตั้งแต่เดือนมกราคม 2017 ได้ยอมรับข้อเสนอตรวจแก้เอกสารข้างต้นจากฝ่ายบริหารและหน่วยงานต่างๆ พร้อมสั่งประเมินการตรวจแก้เอกสารที่เหลืออย่างต่อเนื่อง ด้านโจ ไบเดน ผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากทรัมป์ ออกใบรับรองเอกสารเหล่านี้ในปี 2021-2023 นำสู่การขยายระยะเวลาทบทวนเอกสารและระงับการเผยแพร่
วันที่ 30 มิ.ย. 2023 คาริน ฌอง-ปิแอร์ โฆษกประจำทำเนียบขาวของไบเดน กล่าวว่าร้อยละ 99 ของเอกสารเหล่านี้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหารจอห์น เอฟ. เคนเนดี พร้อมให้สาธารณชนเข้าถึงผ่านหอจดหมายเหตุแห่งชาติสหรัฐฯ
ต่อมาวันที่ 23 ม.ค. 2025 ทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อเปิดเผยแฟ้มเอกสารที่เหลือทั้งหมดอันเกี่ยวข้องกับเหตุลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี รวมถึงโรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี (RFK) ผู้เป็นน้องชายของจอห์น เอฟ. เคนเนดี และมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ (MLK) นักต่อสู้เพื่อสิทธิพลเมือง