นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีนายชัยมงคล ไชยรบ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายความกังวลเกี่ยวกับ MOU44 ระหว่างไทย-กัมพูชา ที่อาจทำให้ไทยเสียเปรียบ โดยยืนยันว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เกี่ยวกับไหล่ทวีปทับซ้อนระหว่างสองประเทศ และยังไม่มีการตั้งคณะกรรมการเทคนิคหรือ JTC ทำให้ยังไม่มีการเจรจาใด ๆ เกิดขึ้น

นายมาริษ ระบุว่า รัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่าย โดยคำนึงถึงความมั่นคง เศรษฐกิจ และบริบทที่เหมาะสม เพื่อให้ผลการเจรจาได้รับการยอมรับจากประชาชนและรัฐสภา ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการจัดเสวนารับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่าง ๆ และได้รับการตอบรับที่ดี

นายมาริษ ย้ำว่า MOU44 เป็นกลไกให้ไทยและกัมพูชาเข้าใจขอบเขตการอ้างสิทธิและจุดยืนของแต่ละฝ่าย โดยการเจรจาจะยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่ได้รับการยอมรับ พร้อมยืนยันว่า MOU44 ไม่ได้เป็นการยอมรับเส้นแบ่งทางทะเลของฝ่ายใด และรัฐบาลจะดำเนินการอย่างรอบคอบ โปร่งใส ไม่ให้ไทยเสียเปรียบ

นายมาริษ ยังกล่าวว่า การเจรจาเกี่ยวกับไหล่ทวีปทับซ้อนต้องเป็นไปตามกลไกกฎหมายระหว่างประเทศและการดำเนินการเช่นเดียวกับรัฐบาลก่อน ๆ โดยให้ความสำคัญต่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนในทุกมิติ ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ และพลังงาน ซึ่งรัฐบาลจะไม่นำประเด็นนี้มาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่อาจกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สำหรับการพัฒนาพลังงานในพื้นที่ทับซ้อน นายมาริษระบุว่า รัฐบาลจะยังไม่ดำเนินการใด ๆ จนกว่าการเจรจาจะมีความชัดเจน และได้รับความเห็นชอบจากประชาชนหรือรัฐสภา