นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้เปิดเผยความคืบหน้าของร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ โดยระบุว่า พ.ร.ก. ฉบับนี้จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนมีนาคมนี้ และจะสามารถประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ในต้นเดือนเมษายน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันทีหลังจากนั้น

พ.ร.ก. ฉบับนี้จะมุ่งเน้นในการกำหนดความรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมไซเบอร์ เช่น สถาบันการเงิน ค่ายโทรศัพท์มือถือ และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ โดยนายประเสริฐได้กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการประชุมกับตัวแทนจากหน่วยงานเหล่านี้แล้ว เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายเมื่อมีผลบังคับใช้ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับการเปิดบัญชีของธนาคาร ซึ่งจะมีข้อกำหนดใหม่ให้การเปิดบัญชีทำได้ยากขึ้น เช่น ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเจ้าของบัญชีเป็นบุคคลที่มีชื่ออยู่ในบัญชีผู้ต้องสงสัยหรือไม่ หากพบว่ามีการเปิดบัญชีที่เป็นภัยหรือหลอกลวง เจ้าของบัญชีและผู้ที่เปิดบัญชีจะต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม นายประเสริฐยังกล่าวถึงคำถามที่ว่า พ.ร.ก. ฉบับนี้จะกำหนดสัดส่วนความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายอย่างไร เช่น ธนาคารต้องรับผิดชอบเท่าไร หรือค่ายมือถือจะรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน เรื่องนี้จะเป็นหน้าที่ของศาลในการพิจารณาว่า ผลกระทบจากอาชญากรรมไซเบอร์นั้นจะตกอยู่ที่ใครมากที่สุด และจะตัดสินความรับผิดชอบของแต่ละฝ่ายตามความเหมาะสม

สำหรับกระบวนการตัดสินของศาล นายประเสริฐ กล่าวว่า คิดว่าไม่นานมากนัก ซึ่งที่ผ่านมาที่นานเพราะเมื่อผ่านศาลชั้นต้นไปแล้ว ก็ไปสู้กันในชั้นอุทธรณ์และชั้นฎีกาอีกมันเลยใช้เวลามาก