นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบร่างพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. และร่าง พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ …) ซึ่งทั้งสองฉบับจะมีบทบาทสำคัญในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยเฉพาะการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หากมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จะมีผลบังคับใช้ทันที และคาดว่าจะมีการประกาศก่อนสงกรานต์ โดยร่างที่ ครม.เห็นชอบได้มีการแก้ไขหลายประเด็น แต่ยังคงหลักการสำคัญ เช่น การรับผิดชอบของสถาบันการเงินและโอเปอเรเตอร์แพลตฟอร์ม รวมถึงการคืนเงินให้ผู้เสียหายได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะเป็นอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)
นอกจากนี้ยังเพิ่มโทษให้กับผู้กระทำความผิดที่นำข้อมูลส่วนบุคคลไปขาย ส่วนร่าง พ.ร.ก. การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ …) กำหนดให้ผู้ประกอบการสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศที่ทำธุรกรรมในประเทศไทยต้องมีมาตรการกำกับดูแล ซึ่งจากเดิมไม่ได้มีข้อกำหนดนี้ และจะมีการตรวจสอบเงินที่เกิดจากการกระทำความผิดที่ไหลเข้ามาในสินทรัพย์ดิจิทัล
ในกรณีที่มีเหตุการณ์เยาวชนถูกหลอกให้โอนเงิน เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายประเสริฐกล่าวว่า เมื่อกฎหมายประกาศใช้แล้ว ธนาคารสามารถอายัดเงินได้ทันที หากพบบัญชีที่ต้องสงสัย จะสามารถอายัดธุรกรรมทางการเงินได้โดยไม่ต้องรอ