พ.ต.ต.นพ.อนวัช สีวลีพันธ์ รังสีแพทย์ โรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยผ่านรายการ “สุขภาพดี 4 ทุ่ม” ทางคลื่นข่าว MCOT NEWS FM 100.5 โดยระบุว่า การรักษาต่อมลูกหมากโตแบบใหม่ มีชื่อว่า PAE หรือ Prostatic Artery Embolization ซึ่งเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยที่ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ หรือไม่ต้องการผ่าตัด
โดยการรักษาด้วย PAE คือการอุดเส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงต่อมลูกหมาก ส่งผลให้ต่อมลูกหมากขาดเลือดและฝ่อลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป ช่วยบรรเทาอาการได้โดยไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ฟื้นตัวไว และลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัดแบบเดิม
ซึ่งการรักษาแบบเดิม จะเริ่มจากการปรับพฤติกรรม หากอาการรุนแรงขึ้นแพทย์จะให้ยา เช่น
ยาคลายกล้ามเนื้อต่อมลูกหมาก หรือยากลุ่มฮอร์โมนเพื่อลดขนาดต่อมลูกหมาก แต่หากยาไม่ได้ผล หรือมีผลข้างเคียง ผู้ป่วยจะต้องเข้ารับการผ่าตัดผ่านกล้อง ซึ่งอาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น การหลั่งน้ำอสุจิย้อนกลับ หรือปัญหาสำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวไม่สามารถดมยาสลบได้
นอกจากนี้ข้อดีของ PAE คือ ไม่ต้องดมยาสลบ ไม่มีบาดแผลใหญ่ และเหมาะกับผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัด อย่างไรก็ตาม หลังการรักษาอาจมีอาการปัสสาวะแสบ ขัด หรือปัสสาวะบ่อยในช่วง 2-3 วันแรก และอาการจะค่อยๆ หายไปภายใน 7 วัน
“ยังไม่มีวิธีใดสามารถ “ชะลอ” การโตของต่อมลูกหมากได้อย่างมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชัดเจน แม้อาหารเสริมบางชนิดอย่าง Salpalmetto จะได้รับความนิยม แต่ยังไม่มีงานวิจัยรับรองแน่ชัดว่ามีผลต่อการชะลออาการได้จริง”พ.ต.ต.นพ.อนวัช กล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.ต.นพ.อนวัช ยังแนะนำอาการของภาวะต่อมลูกหมากโต ที่ควรสังเกต ได้แก่
• ปัสสาวะบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืนมากกว่า 2 ครั้ง
• ปัสสาวะลำเล็ก ใช้เวลานาน
• กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ต้องเข้าห้องน้ำบ่อย
• ปัสสาวะขาดช่วง
หากมีอาการเหล่านี้ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยทันที