นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกา โดยนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดี ประกาศชะลอการขึ้นกำแพงภาษีออกไปอีก 90 วัน ว่าเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะได้มีเวลาเตรียมความพร้อมสำหรับการเจรจาทางการค้าระหว่างประเทศให้ดียิ่งขึ้น
นางสาวแพทองธาร ระบุว่า การชะลอการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ ซึ่งหลังจากนี้คาดว่าหลายประเทศจะต้องเข้าคิวเพื่อเจรจากับสหรัฐฯ โดยไทยต้องเร่งเตรียมความพร้อมในทุกมิติ ซึ่งขณะนี้ได้มีการพิจารณาในทุกด้านอย่างครบถ้วนแล้ว เหลือเพียงรอจังหวะเวลาในการเจรจาอย่างเป็นทางการเท่านั้น
สำหรับกำหนดการเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นางสาวแพทองธาร เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันที่ชัดเจน แม้ว่าทางสหรัฐฯ จะตอบรับการเดินทางดังกล่าวแล้วก็ตาม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงแนวคิดการรวมกลุ่มของประเทศสมาชิกอาเซียนในการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไทยพร้อมดำเนินการในทุกรูปแบบ ทั้งในนามของประเทศไทย และในนามของอาเซียน หากการร่วมมือในระดับภูมิภาคจะช่วยเพิ่มอำนาจในการต่อรอง ก็ถือเป็นเรื่องดี อย่างไรก็ตาม ไทยก็จะเดินหน้าผลักดันผลประโยชน์ในนามประเทศควบคู่ไปด้วย ซึ่งเชื่อว่าทุกประเทศต่างมีแนวทางคล้ายกัน
ในส่วนกรณีที่ศาลไทยออกหมายจับ ดร.พอล แชมเบอร์ส นักวิชาการชาวอเมริกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การเจรจาระหว่างประเทศควรดำเนินไปด้วยความยุติธรรม หากฝ่ายสหรัฐฯ เปิดโต๊ะเจรจาด้วยความเป็นธรรม ไทยก็จะดำเนินการในทิศทางเดียวกัน เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างสมดุล