นายพิชัย ชุณหชิระ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงกรณีที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติได้จัดมวลชนมาชุมนุมที่หน้ากระทรวงการคลัง เพื่อคัดค้านการนำเข้าเครื่องในหมูจากสหรัฐฯ โดยยืนยันว่า รัฐบาลจะพิจารณาการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ อย่างรอบคอบ โดยเฉพาะในส่วนที่ประเทศไทยผลิตได้ไม่เพียงพอหรือนำเข้าเพิ่มเพื่อแปรรูปส่งออก เพื่อแก้ไขปัญหาดุลการค้ากับสหรัฐฯ และสร้างรายได้เข้าประเทศ
สำหรับข้อกังวลด้านสุขภาพจากสารเร่งเนื้อแดง นายพิชัยกล่าวว่า จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาอีกครั้ง พร้อมระบุว่าแต่ละประเทศมีมุมมองที่แตกต่างกันในเรื่องของสารเร่งเนื้อแดง แต่การใช้สารดังกล่าวไม่มีปัญหาต่อสุขภาพจากการยืนยันของนักวิชาการ โดยจะเน้นย้ำการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน และกำหนดให้มีการติดฉลากแหล่งกำเนิดสินค้าที่ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูล
นายพิชัยยังกล่าวถึงการประกาศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เลื่อนการใช้มาตรการภาษีต่างตอบโต้ไปอีก 90 วัน โดยระบุว่า รัฐบาลไทยได้ประเมินถึงสถานการณ์นี้ล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆ รวมถึงผู้บริโภคในสหรัฐฯ เอง
ในส่วนของการเจรจากับสหรัฐฯ นายพิชัยเปิดเผยว่า ไทยจะใช้เวลาที่เหลือในการเจรจาทวิภาคีกับสหรัฐฯ เพื่อพิจารณาเพิ่มรายการสินค้าที่สามารถนำเข้า-ส่งออกระหว่างกัน โดยมีเป้าหมายในการสร้าง “Win-Win Solutions” ทั้งนี้ ในการเจรจาครั้งนี้จะมีการเชิญผู้ประกอบการเข้าร่วมพิจารณาร่วมกับกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายพิชัยยอมรับว่าภาวะเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากบริบทการค้าโลก และกำลังเตรียมแผนรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับภาคการเกษตรและการจ้างงาน พร้อมทั้งกล่าวถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นเพดานหนี้สาธารณะ หากจำเป็นต้องใช้หนี้เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจในระยะยาว