สำนักวาติกันออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ เผยสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส มาจากภาวะขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง (Stroke) และภาวะหัวใจล้มเหลว โดยมีโรคประจำตัวหลายประการที่ซ้ำเติมพระอาการ อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวานชนิดที่ 2 และระบบทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน
ทั้งนี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาทรงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี กรุงโรม นานถึง 38 วัน จากการติดเชื้อรุนแรงในระบบทางเดินหายใจ ลุกลามจนกลายเป็น ปอดอักเสบทั้งสองข้าง โดยแพทย์เปิดเผยว่า พระองค์เคยเข้าสู่ภาวะวิกฤตถึง 2 ครั้ง และเคยพิจารณายุติการรักษา แต่พระองค์ทรงฟื้นกลับมาได้ก่อนจะออกจากโรงพยาบาลไปพักฟื้นที่พระวิหารคาซา ซานตา มาร์ตา ในนครวาติกัน
กระทั่งก่อนสิ้นพระชนม์เพียงหนึ่งวัน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พระองค์ยังทรงปรากฏพระวรกายจากระเบียงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ เพื่อประทานพรแด่คริสตชนเนื่องในวันอีสเตอร์ ท่ามกลางความปลื้มปีติของประชาชนที่เฝ้าชม
อย่าางไรก็ตามการสิ้นพระชนม์ของพระองค์นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของคริสตจักรโลก โดยประชาคมนานาชาติเตรียมจัดพิธีถวายเกียรติยศอย่างสมพระเกียรติในเร็ววันนี้