ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี (24 เม.ย.) ยืนยันว่ามีการประชุมหารือด้านการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนเกิดขึ้นแล้ว แม้ทางการจีนจะออกมาปฏิเสธว่า ยังไม่มีการเจรจาหรือบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับภาษีศุลกากรใด ๆ ทั้งสิ้น

“พวกเขามีการประชุมกันเมื่อเช้า” ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยปฏิเสธจะระบุว่า “พวกเขา” คือใคร พร้อมเสริมว่า “ใครเป็นใครไม่สำคัญ เราอาจเปิดเผยภายหลัง แต่พวกเขาประชุมกันแล้ว และเรากำลังหารือกับจีนอยู่”

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน นายกัวเจียคุน แถลงในวันเดียวกันว่า “จีนและสหรัฐฯ ยังไม่ได้จัดการหารือหรือการเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับภาษีศุลกากร และยังไม่มีการบรรลุข้อตกลงใด ๆ” พร้อมระบุว่ารายงานข่าวเรื่องการเจรจาเป็น “ข่าวปลอม”

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งเปิดเผยว่า มีการพูดคุยในระดับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อย รวมถึงการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายเกิดขึ้นแล้วในสัปดาห์นี้

ความขัดแย้งของถ้อยแถลงจากสองประเทศสะท้อนถึงความไม่แน่นอนในการสื่อสาร ท่ามกลางภาวะสงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจทั้งในสหรัฐฯ และจีน

ด้านรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ นายสกอตต์ เบสเซนต์ ระบุว่า ความตึงเครียดที่สูงเกินไปต้องได้รับการคลี่คลาย ก่อนที่การเจรจาการค้าจะเดินหน้าต่อได้ พร้อมเน้นว่าการปรับสมดุลความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจเศรษฐกิจโลกต้องอาศัยการลดระดับความขัดแย้ง

ทั้งนี้ ทำเนียบขาวได้ออกมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรต่อสินค้าจีนในอัตราสูงถึง 145% เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ขณะที่จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ และออกข้อจำกัดเพิ่มในการส่งออกแร่ธาตุสำคัญมายังสหรัฐฯ