คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องให้ศาลฎีกาวินิจฉัย ตามมาตรา 62 แห่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 กรณี พ.ญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ถูกกล่าวหาว่ากระทำการหลอกลวง ทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงเกียรติคุณ อันเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 77(4) ของกฎหมายเดียวกัน
กรณีดังกล่าวเกิดจากการที่ พ.ญ.เกศกมล แจ้งว่าได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิต (ด็อกเตอร์) จาก California University ในการสมัครเป็น ส.ว. แต่ผลสอบสวนโดยคณะกรรมการสืบสวนของสำนักงาน กกต.ระบุว่า สถาบันดังกล่าวไม่มีการรับรองในประเทศไทย และระบบการเรียนการสอนเป็นการส่งรายงานและเทียบโอนเกรด ไม่ได้แสดงหลักฐานการเรียนและจบการศึกษาตามมาตรฐานที่ยอมรับได้
คดีนี้เริ่มต้นจากการมีผู้ร้องขอให้ตรวจสอบ ซึ่ง กกต.มีมติรับเรื่องไว้เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2567 และได้มีการไต่สวนเพิ่มเติมในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนปีเดียวกัน ก่อนที่ประธาน กกต. นายอิทธิพร บุญประคอง จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคดีจะพิจารณาแล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน
ตามกฎหมาย ผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 77(4) มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี หากศาลฎีการับคำฟ้อง พ.ญ.เกศกมล จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในทันทีจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา
นอกจากนี้ พ.ญ.เกศกมล ยังเผชิญอีกหนึ่งข้อร้องเรียนในประเด็นการฮั้วเลือก สว. ซึ่งยังอยู่ระหว่างการสอบสวนโดยคณะกรรมการร่วมระหว่าง กกต. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI)