น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ฝ่ายการเมืองเปิดเผยว่า มีสื่อออนไลน์บางสำนักได้นำเสนอข่าวสร้างความสับสนให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อนโดยระบุว่า มีนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุขให้เอายาแผนปัจจุบันออกจากร.พ. แล้วบังคับให้แพทย์แผนปัจจุบันใช้ยาสมุนไพรรักษาคนไข้แทน ความจริงขอชี้แจงว่ากระทรวงสธ.มีภารกิจสำคัญในการให้บริการสาธารณสุข พัฒนาคุณภาพชีวิต รักษาและฟื้นฟูสุขภาพประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการแพทย์และสาธารณสุขอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวเป็นนโยบายที่ได้รับการตอบรับด้วยดีจากประชาชนทั้งประเทศ และการรักษาพยาบาลผู้ป่วยในบัจจุบันได้ใช้ทั้งยาแผนปัจจุบันและยาสมุนไพรควบคู่กัน โดยผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 ประเภทนี้ ผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจในกำกับดูแลของกระทรวง สธ.
โฆษกกระทรวง สธ.ฝ่ายการเมืองกล่าว่า องค์การเภสัชกรรมได้วิจัยและพัฒนาสมุนไพรเพื่อใช้เป็นยาและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมาอย่างต่อเนื่อง กระทั่งขยายไปสู่การผลิตสมุนไพรเชิงอุตสาหกรรม มีการตั้่ง บริษัทผลิตภัณพ์สมุนไพรไทย จำกัด ที่มีมาตรฐานสากลในการผลิตยาและได้รับรางวัลระดับชาติในการผลิตภัณฑ์สมุนไพรดีเด่น ประเภทยาสมุนไพร ประเภทผู้ประกอบการด้านสมุนไพร และประเภทผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร พร้อมกันนี้ยังมีการกำหนดเกณฑ์หน่วยบริการที่ใช้ยาสมุนไพรทดแทนยาตะวันตก ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีที่ปัจจุบัน สมุนไพรไทยได้เข้ามีบทบาททางด้านการแพทย์และสาธารณสุขมากขึ้นตามลำดับ ยกตัวอย่างยาสมุนไพร เช่นฟ้าทะลายโจร, ยาพริก, เถาวัลย์เปรียง, มะขามป้อม, ประสะมะแว้ง, มะขามแขก, เพชรสังฆาต, ขมิ้นชัน, ยาธาตุอบเชย,ลูกประคบ เป็นต้น และสมุนไพรไทยเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการรักษาช่วงโรคโควิด-19ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
“เรื่องนี้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการสาธารณสุข มองเห็นว่าทางกระทรวงสาธารณสุขมีทั้งแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก รวมถึงมียาสมุนไพรที่เป็นตำรับยาโบราณพื้นบ้านพื้นฐานเพื่อเป็นทางเลือกให้กับโรงพยาบาลให้ได้ใช้อยู่ประมาณ 4 กลุ่ม ซึ่งตัวเลขสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ซึ่งท่านรัฐมนตรีเห็นว่าโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ ที่ผ่านมามีวงเงินอยู่ 1 พันล้านต่อปี ถ้าสามารถใช้สมุนไพรแทนยาต่างประเทศได้ เป็นสิ่งที่ต้องสนับสนุนคนไทย เรามีสมุนไพรพื้นบ้านที่เป็นตำรับยาดีๆมากมาย เราไม่ได้ใช้ยาไทยสมุนไพรไทยไปนาน สมุนไพรบางตัวสามารถนำมารักษา ปวดท้อง ท้องเสีย สมุนไพรไทยใช้ดีถือเป็นทางเลือกของโรงพยาบาล และสปสช. ก็ได้ให้รางวัลกับโรงพยาบาลที่สามารถใช้ยาที่โรงพยาบาลจ่ายยาสมุนไพรทดแทนยาแผนปัจจุบัน
“สมุนไพรไทยมีสรรพคุณในการรักษาสารพัดโรคในอดีต มีทั้งตำราที่ถูกบันทึกไว้ทั้งตำรายาหลวงและตำรายาพื้นบ้าน ซึ่งสามารถรักษาโรคปัจจุบันได้มากมายและเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับประชาชน และเป็นหนทางที่ดีที่ให้ประชาชนได้เข้าถึงการรักษาโรคได้อีกทางหนึ่งซึ่งเป็นหนทางที่ดีของประชาชนควบคู่ไปกับการรักษาด้วยการนวดแผนไทยอีกทางหนึ่งด้วย” นางสาวตรีชฎา กล่าว