นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เผยถึงสถานการณ์ราคาทองคำที่ผันผวนอย่างหนักในช่วงนี้ โดยระบุว่าเกิดจากการเทขายทำกำไรของนักลงทุนและกองทุนต่างชาติที่เข้าซื้อไว้ล่วงหน้า ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้าและนโยบายเศรษฐกิจของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งยังคงส่งผลต่อตลาดโลก โดยล่าสุด (1 พ.ค.) ราคาทองในประเทศร่วงแรงถึง 800 บาท
ทั้งนี้ราคาทองแท่ง ณ ปัจจุบัน รับซื้อที่บาทละ 51,000 บาท ขายออกที่บาทละ 51,100 บาท ขณะที่ทองรูปพรรณ รับซื้อที่บาทละ 50,086.64 บาท และขายออกที่บาทละ 51,900 บาท นายจิตติประเมินว่า แม้ราคาจะผันผวนต่อเนื่อง แต่โอกาสที่ราคาจะต่ำกว่าบาทละ 50,000 บาทนั้นมีน้อย และยังคงยืนยันว่าทองคำยังเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและน่าลงทุน ทั้งในระยะสั้นสำหรับเก็งกำไร และระยะยาวสำหรับผู้มีเงินออม
ขณะที่สมาคมค้าทองคำคาดว่า ช่วงปลายปี ราคาทองคำในตลาดโลกอาจแตะระดับ 3,800 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองไทยอาจพุ่งขึ้นแตะ 58,000–60,000 บาทต่อบาททองคำ หากไม่มีปัจจัยลบใหม่เข้ามากระทบ โดยยังต้องติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด