สำนักจุฬาราชมนตรี ออกแถลงการณ์ ระบุว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อันนำไปสู่การฆ่าประชาชน ผู้บริสุทธิ์อย่างโหดเหี้ยมในช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความเศร้าสลด แก่ประชาชนชาวไทยอีกครั้งหนึ่ง ด้วยคนร้ายได้กระทำต่อผู้อ่อนแอ ผู้พิการ คนชรา ผู้หญิง นักเรียนศาสนา และเณร ซึ่งกลุ่มบุคลดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับความขัดแย้ง และกลุ่ม ผู้อ่อนแอเหล่านี้จะต้องได้รับการปกป้องในทุกกรณีจากเหตุการณ์ความรุนแรงในทุกรูปแบบ
สำนักจุฬาราชมนตรีขอประณามการกระทำดังกล่าวอย่างถึงที่สุดและขอประกาศ ด้วยถ้อยคำที่ชัดเจนที่สุดว่า ไม่มีเหตุผล ข้ออ้างใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าข้ออ้างทางการเมือง ชาติพันธุ์ ศาสนา หรือประวัติศาสตร์ในการก่ออาชญากรรมอันโหดเหี้ยมเช่นนี้
ในบริบทของพื้นที่ซึ่งมุสลิมผู้นับถือศาสนาอิสลามเป็นชนกลุ่มใหญ่ การฆ่าชีวิต นอกจากจะผิดกฎหมายบ้านเมืองและต้องได้รับโทษทางอาญาขั้นสูงสุดแล้ว ยังถือเป็นความผิด ทางศาสนาอย่างร้ายแรง ด้วยพระองค์อัลเลาะห์ (ซ.บ.) ได้ตรัสไว้ในบทอัลอิสรอด์ โองการที่ 33 ความว่า ” พวกเจ้าอย่าฆ่าชีวิตซึ่งอัลเลาะห์ทรงตราห้ามไว้ นอกจากโดยมีสิทธิอันชอบธรรม”
สำนักจุฬาราชมนตรี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว ญาติพี่น้อง ของผู้บาดเจ็บ ผู้สูญเสีย และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตาม กฎหมายโดยเร็ว และขอให้ประชาชนช่วยกันดูแลสอดส่องความผิดปกติและเป็นหูเป็นตาให้แก่ เจ้าหน้าที่เพื่อสร้างมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
ขอเรียกร้องให้ยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ และใช้สันติวิธีในการแก้ปัญหา อันเรื้อรังนี้ ด้วยเจตจำนงอันแน่วแน่ และความหวังอันเต็มเปี่ยม เพื่อสังคมไทยได้เดินต่อไป ข้างหน้า และส่งผ่านอนาคตที่ดีให้แก่คนรุ่นต่อไป