นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 5/2567 ณ ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ว่า สำหรับสถานการณ์ฝุ่นขณะนี้เริ่มดีขึ้น มีลมตะวันออกพัดมา น่าจะดีไปอีกหนึ่งสัปดาห์ แต่ที่เรากังวลมากคือเรื่องอุณหภูมิสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคลมแดดหรือฮีทสโตรก (Heatstroke) โดยตั้งแต่วันที่ 21 ก.พ. 67 กรมอุตุฯได้ประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อน ปีนี้คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะสูงกว่าปกติ 1-2 องศา ซึ่งเกี่ยวกับปรากฏการเอลนีโญ คาดการณ์ว่าปีนี้อากาศจะค่อนข้างร้อน
ทั้งนี้สำหรับมาตรการ นายชัชชาติ ระบุ ก็ดำเนินการคล้ายกับมาตรการป้องกันฝุ่น PM2.5 มีเรื่องของการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนประชาชน การป้องกันสุขภาพ มาตรการลดอุณหภูมิเมืองซึ่งก็เป็นมาตรการระยะยาว โดยในที่ประชุมได้การสั่งให้สำนักงานเขตทุกเขตทำการประเมินจุดเสี่ยงในพื้นที่ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นชุมชน โรงเรียน ไซต์ก่อสร้าง สวนสาธารณะ และเน้นประชาสัมพันธ์สำหรับคนที่แข็งแรง เพราะถ้าเราจะมองว่าผู้สูงอายุหรือว่ากลุ่มเสี่ยงเป็นเป็นผู้ที่จะได้รับผลกระทบ คนแข็งแรงเช่นกัน อย่างเช่นคนที่ออกกําลังกายในสวน แรงงานก่อสร้าง หรือเกษตรกร ส่วนในโรงเรียนก็มีการจัดอบรมเพื่อที่จะได้ทราบแนวทางในช่วงที่นักเรียนจะปิดเทอมว่าอยู่บ้านควรจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร สำหรับเจ้าหน้าที่กทม.ก็ได้มีควรจะมีมาตรการในการตระหนักเรื่องนี้ ซึ่งสำนักสิ่งแวดล้อมได้ปรับเปลี่ยนเวลาการทำงานของพนักงานที่ต้องทำงานกลางแจ้งเพื่อที่จะเว้นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดของวัน
ขณะเดียวกัน กทม.ได้ดำเนินการลดอุณหภูมิเมืองอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการปลูกต้นไม้ล้านต้น สวน 15 นาที หรือมาตรการทางผังเมืองที่ส่งเสริมพื้นที่สีเขียว
จริง ๆ แล้ว ก็ได้เน้นย้ำในเรื่องของการให้ความรู้ประชาชนเพิ่มเติมว่า อุณหภูมิไม่ใช่ตัวสำคัญเพียงอย่างเดียวในการเกิดฮีทสโตรก แต่เป็นเรื่องของ Heat Index เพราะว่าจะมีเรื่องความชื้นด้วย ถ้าอุณหภูมิสูงและความชื้นสูงจะยิ่งหนัก หรือเหงื่อไม่ระเหยทำให้เหมือนกับว่าเราเสียน้ำแต่ว่าอุณหภูมิร่างกายไม่ลดลง ก็จะแจ้งเตือนให้แต่ละโรงเรียนขึ้นป้าย Heat Index ที่แสดงทั้งอุณหภูมิและเรื่องความชื้น ว่าอันตรายไหม เด็กจะได้ระวังระมัดระวังตัวมากยิ่งขึ้น