กลางดึกที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพล.ต.ต. โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้าตรวจสอบของกลางยาเสพติดและสอบปากคำผู้ต้องหา ณ สถานีตำรวจภูธรบางปะหัน ต.เสาธง อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อเดินทางถึงได้พบผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุในกระสอบประมาณ 50 กระสอบ กระสอบละประมาณ 2 แสนเม็ด รวมยาบ้าประมาณ 10 ล้านเม็ด
โดย นายอนุทิน กล่าวว่า ได้รับรายงานจากนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เวลาประมาณ 18.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยข่าวกรองสงครามพิเศษลพบุรี ได้จับกุมขบวนการขนยาเสพติด ณ บริเวณปั๊มน้ำมัน PT โชคดีออยล์ ต.หันสัง อ.บางปะหัน โดยเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ติดตามรถต้องสงสัย จำนวน 2 คัน ซึ่งขับหลบหนีด่านตรวจมาจากจังหวัดพิจิตร ประกอบด้วย รถบรรทุก ฮีโร่ สีขาว ทะเบียน 70-1654 น่าน และรถกระบะ Toyota Vigo สีดำ ทะเบียน ฒน 3801 กทม. โดยเมื่อรถต้องสงสัย 2 คัน ได้ขับมาแวะที่ปั๊ม PT โชคดีออยล์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและขอตรวจค้น โดยผู้ขับขี่รถบรรทุกฮีโน่ ทราบชื่อภายหลังคือ นายจรัส (สงวนนามสกุล) อายุประมาณ 47 ปี รับสารภาพว่าได้รับจ้างขนยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือ โดยที่ผู้ว่าจ้างให้ขับรถบรรทุกคันดังกล่าวมาจอดไว้ที่ปั๊ม PT โชคดีออยล์ จากนั้นจะมีผู้มารับช่วงต่อ โดยที่ตนเองก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร ส่วนคนขับรถกระบะ Toyota สีดำ ทราบชื่อภายหลัง นายธีรนันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี จากการตรวจค้นรถคันดังกล่าวไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่คาดว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถสำรวจเส้นทาง ซึ่งจากการตรวจสอบยาเสพติดเบื้องต้นท้ายรถบรรทุก ชุดจับกุมได้พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) บรรจุในกระสอบประมาณ 50 กระสอบ ๆ ละประมาณ 2 แสนเม็ด รวมยาบ้าประมาณ 10 ล้านเม็ด โดยยาเสพติดดังกล่าวปะปนมากับกระสอบพืชผลทางการเกษตร จากนั้น จึงได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางมาที่สถานีตำรวจภูรบางปะหัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
“วันนี้ ตนเดินทางมาด้วยความตั้งใจที่จะมาชื่นชมทีมงานทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ที่ถือเป็นทีมงานที่ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการไล่ตามจับกุมการลักลอบขนยาบ้าครั้งนี้ถึง 10 ล้านเม็ด ได้ประสบความสำเร็จ โดยมีทหารและตำรวจเป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งเมื่อได้เบาะแสก็ได้ไล่ตามจากจุดเริ่มต้นที่จังหวัดพะเยาลงมา ซึ่งการไล่ติดตามดจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวังไม่ให้ผู้ต้องหาไหวตัว กระทั่งสามารถมาจับกุมได้ที่อำเภอบางปะหัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้โทรศัพท์รายงาน และท่านอธิบดีกรมการปกครองจึงได้พารถไปรับตนเดินทางมา” นายอนุทินฯ กล่าว
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ที่ได้เสี่ยงชีวิตในการจับกุมเครือข่าย โดยเฉพาะการจับกุมยาบ้าจำนวนมากกว่า 10 ล้านเม็ดในครั้งนี้ ที่มีมูลค่ามหาศาล ซึ่งการปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการสกัดไม่ให้ยาเสพติดหลุดเข้าไปในพื้นที่ชั้นใน และถูกลำเลียงไปพื้นที่ต่าง ๆ ที่อาจจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ไปทำให้เกิดผู้เสพหน้าใหม่เพิ่มขึ้น และตนขอยืนยันว่ารัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยจะไม่ปล่อยให้มียาเสพติดเพิ่มขึ้นในประเทศไทย เราจะเดินหน้าบูรณาการทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ในการปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดในทุกวิถีทาง เพื่อทำให้สังคมไทยเป็นสังคมปลอดยาเสพติด ลูกหลานใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข โดยหากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสสามารถแจ้งสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือสายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง