นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยพลตำรวจเอก อดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหาร ร่วมตรวจเยี่ยมห้อง CCTV ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า ในการเตรียมความพร้อมนำเครื่องมือเทคโนโลยีมาใช้รักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์
พลตำรวจเอก อดิศร์ กล่าวว่า วันนี้ต้องแบ่งออกเป็น 2 เรื่อง 1. ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้ให้สำนักการจราจรและขนส่ง กทม. รวบรวมจุดติดตั้งและจำนวนกล้อง CCTV ที่อยู่บนถนนข้าวสาร เนื่องจากในปีนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครได้มอบนโยบายว่าอยากให้ขยายการเล่นสงกรานต์กระจายตัวออกไป ปีที่แล้วมีประชาชนเข้ามาเล่นสงกรานต์ในถนนข้าวสาร หนึ่งแสนกว่าคน เกิดการเบียดเสียดกัน หากกระจายตัวออกไปได้จะทำให้การเล่นน้ำไม่แออัด แต่เมื่อกระจายตัวออกไปแล้วจะต้องใช้กำลังตำรวจในการดูแลประชาชนมากขึ้นจึงคิดว่าหากจะใช้เทคโนโลยี AI กล้อง CCTV ต่าง ๆ ก็ต้องมีการปรับเพิ่มเติม วันนี้จึงเป็นการมาดูว่าเมื่อรวมกล้องแล้วมีจำนวนกล้องเท่าใด คุณภาพและมุมกล้องเป็นอย่างไร และได้เชิญเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.ชนะสงคราม และทางสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. เข้ามาให้ข้อมูล แต่ในขณะเดียวกันเรื่องเทคนิคก็ต้องให้รองผู้ว่าฯ วิศณุ ช่วยดูว่ายังขาดตกบกพร่องจุดใดบ้าง
ในส่วนเรื่องที่ 2. เป็นเรื่องเร่งด่วนคือ ราชประสงค์โมเดล สืบเรื่องจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มาเยี่ยมและมอบนโยบายเรื่องนี้แก่กรุงเทพมหานคร โดยได้สั่งการให้ดูแลเรื่องรถรับจ้างสาธารณะที่เอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยวหลายจุดใน กทม. ทั้งเกาะรัตนโกสินทร์ ย่านนานา ถนนราชดำริหน้าและ Big C แถวเซ็นทรัลเวิลด์ โดยทางสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. ได้รวบรวมข้อมูลจากกล้องCCTV ทั้งถนนฝั่งขาออกและขาเข้า ซึ่งสามารถตรวจจับป้ายทะเบียนได้ ในส่วนเทคโนโลยีเหล่านี้ต้องให้ รองผู้ว่าฯ วิศณุ ช่วยกำกับดูแลและให้คำแนะนำทั้งเรื่องงบประมาณและอุปกรณ์ที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ และได้รับความร่วมมือจากทางภาคเอกชนที่จะเข้ามาช่วยให้ทั้ง 2 งานนี้สำเร็จอีกด้วย เพื่อทำให้ประชาชนที่มาเที่ยวได้รับความปลอดภัยตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงสงกรานต์
ในทางเทคนิคต้องมีการเพิ่มเติมในส่วนใดหรือไม่ นายวิศณุ กล่าวว่า ต้องดูความต้องการทั้งตำรวจและเทศกิจว่าต้องการเพิ่มตำแหน่งกล้องในจุดใด ซึ่งได้มีการตรวจสอบทบทวนเตรียมความพร้อมในการเพิ่มตำแหน่งจุดติดตั้งกล้องร่วมกัน
ในส่วนแผนการรักษาความปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีการจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ พลตำรวจเอก อดิศร์ กล่าวว่า แม้ไม่มีคำสั่งแต่เราก็ต้องรองรับประชาชนที่จะเข้าไปร่วมงานบนถนนราชดำเนินตั้งแต่สนามหลวงไปจนถึงผ่านฟ้าลีลาศ ในส่วนจุดเล่นน้ำที่จะมีประชาชนมาร่วมงานมากคือถนนข้าวสาร ดังนั้นจึงมีการประชุมร่วมกับ สน.ท้องที่ ผู้จัดงาน และผู้เกี่ยวข้องเพื่อรองรับประชาชนที่เข้ามา ทั้งนี้หลัก ๆ จะไม่อนุญาตให้นำรถเข้ามาจอดในพื้นที่ และเชิญชวนให้ประชาชนใช้รถขนส่งสาธารณะ เพราะบนถนนราชดำเนินจะไม่มีจุดจอด เนื่องจากปีที่แล้วประชาชนนำรถเข้ามาจอดทำให้เกิดความไม่เป็นระเบียบ และสุ่มเสี่ยงต่อการสูญหาย ปีนี้ตำรวจจะจัดระเบียบเรื่องนี้ให้เข้มงวดมากขึ้น
พลตำรวจเอก อดิศร์ กล่าวต่อว่า ปีที่แล้วจุดหลัก ๆ ในการเล่นสงกรานต์ (ที่ได้เข้าไปดูแต่ กทม. ไม่ใช่ผู้จัด) เช่น สยามสแควร์ ซึ่งเป็นระบบที่แข็งแรงมากและใช้กำลังตำรวจน้อย เราได้ไปดูเป็นตัวอย่างและนำมาถอดบทเรียนว่าจะจัดงานอย่างไรให้เกิดปัญหาน้อยและประชาชนสนุกและสะดวก รวมถึงที่สีลม เขตบางรัก ที่ไม่ได้มีเจ้าภาพหลักในการจัดงาน และกทม. ไม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัด แต่เมื่อมีประชาชนเล่นน้ำสงกรานต์จึงเป็นหน้าที่ของสำนักงานเขตและตำรวจในท้องที่ต้องเข้าไปดูแลความเรียบร้อย ทั้งนี้จุดที่ กทม. จะจัดอย่างแน่นอนคือลานคนเมืองและถนนข้าวสาร
ในส่วนการเสริมศักยภาพกล้อง CCTV ที่กทม. ดูแลทั้ง 63,000 ตัว นายวิศณุ กล่าวว่า บนถนนข้าวสารมีการเพิ่มจำนวนกล้อง CCTV อีกทั้งกล้องของตำรวจที่ดูแลความปลอดภัยในชุมชน 17,000 ตัว มีการหารือว่าจะรวมกันอย่างไรเพื่อที่จะเป็นตาวิเศษในการเฝ้าระวังให้ กทม. มีกล้องครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงกล้องของผู้ประกอบการในพื้นที่ด้วย อาจมีระบบที่เชื่อมกันเป็นการใช้กล้องที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ในปีงบประมาณนี้มีการเปลี่ยนกล้องประมาณ 2,000 ตัว ขณะนี้กำลังทยอยเปลี่ยนให้ครบ
พลตำรวจเอก อดิศร์ กล่าวเสริมว่า ผู้ที่ใช้กล้องจริง ๆแล้ว คือตำรวจ ทางกทม.เป็นผู้สนับสนุน ดังนั้นในจุดที่จะติดตั้งกล้องอยากให้ทางตำรวจเข้ามาช่วยดู เริ่มจากจุดเล็ก ๆ เช่น ในชุมชน จุดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ จุดท่องเที่ยว จุดเปราะบาง รวมถึงจุดที่ต้องดูแลเรื่องความมั่นคง ดังนั้นการเลือกจุดติดตั้งกล้องเป็นสิ่งสำคัญเมื่อผู้ใช้เป็นผู้เลือกจุด เลือกมุม ในการติดตั้งกล้องจะทำให้ตำรวจดูแลความปลอดภัยประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่เป็นสิ่งที่เราพยายามปรับเข้าหาตำรวจมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้มีการประชุมหารือเสร็จสิ้นแล้ว และมีการทำโครงการเสนอเข้ามาเพื่อระบุจุดติดตั้งกล้อง ทั้งกล้องอาชญากรรม ท่องเที่ยว ความมั่นคง และจราจร
นายวิศณุ กล่าวว่า ปีงบประมาณ 67 มีการตั้งงบประมาณมาที่ศูนย์ Command Center จะมีแพลตฟอร์มรองรับกล้องจากหลากหลายแหล่งเข้ามาในระบบนี้ ซึ่งจะทำให้การบูรณาการการติดตามสะดวกขึ้น