นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ สส.ของพรรค แถลงหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติไม่รับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงานฉบับก้าวไกลว่า ร่างกฎหมายที่เสนอ ที่ประชุมเห็นด้วยจำนวน 149 เสียง ไม่เห็นด้วย 159 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ทำให้ร่าง พ.ร.บ. ไม่ผ่านการพิจารณาในวาระที่หนึ่ง ในฐานะเป็นผู้ใช้แรงงานมามากกว่า 30 ปี และเป็นผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากร่างกฎหมายนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนทำงานในประเทศนี้ให้ดีขึ้น สามารถลืมตาอ้าปากได้ด้วยหลักการ ทำงาน พักผ่อน ใช้ชีวิต และยังขยายความคุ้มครองให้ครอบคลุมรูปแบบการจ้างงาน รวมไปถึง ไรเดอร์ ฟรีแลนซ์ และแรงงานอิสระ ซึ่งเป็นกฎหมายเปลี่ยนชีวิตคนทำงาน ที่จะช่วยยกระดับ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล กลับไม่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาฯ
นายเซีย กล่าวว่า รู้สึกเสียดายที่ประเทศเสียโอกาสสร้างความเสมอภาคทางสังคม เสียโอกาสและเสียเวลาในการสร้างความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ อีกทั้งเสียโอกาสที่จะเพิ่มผลผลิตประสิทธิภาพการทำงาน ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับระบบเศรษฐกิจ เสียดายที่คนทำงานในประเทศ จะยังคงมีความคุ้มครองตามหลังนานาประเทศ ที่เดินนำหน้าพวกเราไปกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาที่สำคัญของผู้แทนฯที่มีความประสงค์ดี ต่อคุณภาพชีวิตของคนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ และรู้สึกผิดหวังที่บรรดาผู้แทนฯของประชาชน มองข้ามการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และให้ความสำคัญเพียงเสียงของบรรดาเหล่านายทุน ขุนศึกศักดินา เจ้าของกิจการ ที่จะได้รับผลกระทบจากร่างแรงงานคุ้มครองแรงงานของเรา ด้วยการคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ ตั้งแต่วาระแรก ทั้งที่เป็นเพียงพื้นฐานที่คู่ควรต่อการเป็นมนุษย์
การคว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ เป็นเรื่องการเมืองที่ขั้วตรงข้ามเรา ต้องการทำลายคะแนนเสียง ความเชื่อมั่นที่มีของชนชั้นแรงงานต่อพรรคก้าวไกล โดยไม่สนใจว่าเนื้อหาของกฎหมายฉบับนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อคุณภาพชีวิตของพี่น้องแรงงานอย่างไร มากน้อยแค่ไหน ทั้งที่กฎหมายฉบับนี้ ไม่ได้แตะต้องหรือกล่าวถึงกองทัพ สถาบันฯ หรือฝั่งอนุรักษนิยม จารีตประเพณี แต่อย่างใด แม้กระทั่ง การแลกเปลี่ยนในสังคมออนไลน์ เท่าที่พบเห็น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลจำนวนมากที่ทำหน้าที่บริหาร ก็ยังเห็นด้วยกับร่างกฎหมายฉบับนี้ เรื่องแบบนี้อาจจะดูเล็กน้อยสำหรับท่าน แต่สำหรับคนทำงานกว่าค่อนประเทศเป็นเรื่องใหญ่มาก ที่เราต้องพลาดโอกาสที่ดีของกฎหมายฉบับนี้ สิ่งที่ปรากฏนี้ให้ความรู้สึกดังคำกล่าวที่ว่า “กฎหมายเขียนขึ้นโดยคนชนชั้นใด ก็เพื่อรับใช้คนชนชั้นนั้น”
นายเซีย กล่าวต่อว่า แม้ร่างกฎหมายฉบับนี้ จะไม่ผ่านการพิจารณาในวาระที่ 1 แต่เราจะต้องเดินหน้าผลักดันกฎหมาย เพื่อพัฒนาชีวิตคนทำงานเข้าสู่สภาฯต่อไปอีกหลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ รวมถึง พ.ร.บ.ประกันสังคม ที่จะช่วยเพิ่มอำนาจการต่อรอง และคุ้มครองคนทำงานในประเทศนี้ ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา พวกเรา สส.พรรคก้าวไกล ขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชน และผู้ใช้แรงงานว่า พวกเราให้ความสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตพี่น้องผู้ใช้แรงงาน เดินหน้าทำงาน ผลักดัน พ.ร.บ.เพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตคนทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของคนทำงานในประเทศนี้ให้ดีขึ้น
ถึงแม้ร่างกฎหมายของตนไม่ผ่าน แต่ยังมีกฎหมายคุ้มครองแรงงานอีกฉบับที่เสนอโดย น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ ที่สภาฯรับหลักการในวาระแรก ผ่านเข้าไปในชั้นกรรมาธิการ ที่มีความแตกต่างกันเกี่ยวกับการลาคลอด 180 วัน และการคุ้มครองลูกจ้างของรัฐ จึงหวังว่าในชั้นกรรมาธิการจะมีการพูดคุยในรายละเอียดและผลักดันให้ แรงงานมีสิทธิลาคลอดได้ 180 วัน
เมื่อถามว่า ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานของนายเซีย ฝ่ายรัฐบาลมองว่า สุดโต่งเกินไปจะทำให้ระบบ SME ล้มนั้น นายเซีย กล่าวว่า เรามีมาตรการที่ดูแลพี่น้อง SME อยู่หลายเรื่อง
เมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนอะไร นายเซีย กล่าวว่า สส.ที่ไม่รับร่างกฎหมายของตน อาจจะเห็นปัญหาของพี่น้องแรงงานไกลตัวพวกเขา เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ไม่ได้ผ่านกระบวนการ หรือไม่ใช่ลูกชาวบ้าน หลานคนธรรมดาอย่างพวกเราพรรคก้าวไกล พวกเราส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน เราเข้าใจปัญหาพี่น้องแรงงานอย่างดีมาตลอดว่าที่ผ่านมาไม่สามารถที่จะลืมตาอ้าปากได้ ด้วยเงื่อนไขของกฎหมายที่วางกรอบกำหนดไม่ให้มีโอกาสเข้าถึงสิทธิด้านต่างๆ
ส่วน น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า สาเหตุที่แยกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานเป็น 2 ฉบับ คือฉบับที่เป็นร่างการเงิน และไม่ใช่ร่างการเงิน เนื่องจากมีประสบการณ์ตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกปัดตกทั้งฉบับ ซึ่งร่างของตนถือเป็นร่างการเงินทั้งหมด เนื่องจากการยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานรัฐ ต้องใช้งบประมาณ ทั้งนี้ เมื่อใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก เราจะต้องไปต่อสู้ต่อในชั้นกรรมาธิการเหมือนกันว่า จะได้วันลาคลอดเท่าไหร่ เนื่องจากในร่างของรัฐบาลระบุไว้เพียง 98 วัน ซึ่งในส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ ก็ต้องไปดูอีกว่า คำว่า ข้าราชการ จะครอบคลุมถึงส่วนไหน
ด้านนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี กล่าวเสริมว่า การคว่ำกฎหมายไม่ใช่การพ่ายแพ้ของพรรค แต่เป็นการคว่ำการทวงคืนสิทธิขั้นพื้นฐาน ขอย้ำว่ากฎหมายของพรรคก้าวไกลไม่ได้ก้าวหน้าเกินไปเลย ไม่ได้เรียกร้องอะไรเกินไป คนที่กล่าวว่ากฎหมายของพวกเราก้าวหน้าเกินไป คนพวกนี้หัวจิตหัวใจทำด้วยอะไร ถึงไม่เห็นความเป็นมนุษย์ การบอกว่ากฎหมายนี้ส่งผลกระทบต่อ SME เลิกมุดหัวอยู่หลัง SME ต้นทุนแรงงานเป็นเพียงต้นทุนส่วนหนึ่งของ SME ค่าน้ำ ค่าไฟ ลดหรือไม่ วัตถุดิบอื่นๆ คุณไม่พูดเลย เวลาแรงงานเรียกร้องสิทธิแรงงานขึ้นมา คุณก็เอาแต่โหน SME เอามาเป็นเกราะกำบัง ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจ
“วันนี้พรรคก้าวไกลได้กระชากหน้ากากของนักการเมืองบางกลุ่มที่แฝงตัวเป็นหนึ่งเดียวกับนายทุน แล้วคอยขัดขวางสิทธิประโยชน์ของแรงงานซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ วันนี้ก็เห็นแล้วว่านักการเมืองบางกลุ่มเกาะกินเป็นหนึ่งเดียวกับทุน วันนี้แม้เราจะเสียโอกาสของคนหลายสิบล้านคน แต่สิ่งหนึ่งที่เราทำสำเร็จคือการกระชากหน้ากากคนพวกนี้ออกมาให้เห็น ว่าคนพวกนี้ยืนอยู่ข้างใคร” นายสหัสวัต กล่าว