นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคระบบการหายใจและผู้ป่วยหนัก โพสต์เฟซบุ๊กยกตัวอย่างเคสผู้ป่วย โดยระบุว่า
ผู้ป่วยชายอายุ 64 ปี เป็นโรคเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง ตรวจสุขภาพประจำปีไม่มีอาการ ไม่มีไข้ ไม่ปวดท้อง ไม่คลื่นไส้ ไม่อาเจียน กินอาหารได้ปกติ น้ำหนักไม่ลด แต่ผู้ป่วยกินพืชน้ำ เช่น สายบัว ผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักแว่น ตะไคร่น้ำ กินสดๆ เป็นประจำโดยไม่ได้ปรุงให้สุกก่อน ไม่กินปลาน้ำจืดที่สุกๆ ดิบๆ เช่น ก้อยปลา ปลาร้าดิบ
ซึ่งตรวจร่างกายไม่มีไข้ ไม่เจ็บใต้ชายโครงข้างขวา ตับไม่โต ไม่มีตัวเหลืองตาเหลือง แต่เจาะเลือดพบจำนวนเม็ดเลือดขาว 8,500 เซลล์ เป็นเซลล์ชนิด eosinophil สูงถึง 37% (ปกติไม่เกิน 5%) ค่าเอนไซม์ตับปกติ ค่ามะเร็งทุกตัวปกติ ตรวจเลือดไม่พบพยาธิสตรองจิลอยด์แอนติบอดี ตรวจอุจจาระไม่เจอพยาธิและไข่พยาธิ
โดยทำอัลตราซาวด์ของตับพบก้อนขนาด 1.9 × 1.2 เซนติเมตรและ 0.9 × 0.8 เซนติเมตรในตับข้างขวา ปีที่แล้วทำอัลตราซาวด์ไม่พบก้อนในตับ ทำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI ของตับพบก้อนขนาด 2.8 × 2.4 × 2.1 เซนติเมตรและ 4.5 × 3.1 × 3.3 เซนติเมตรในตับข้างขวา เจาะชิ้นเนื้อตับส่งตรวจพยาธิวิทยา พบฝีในตับประกอบด้วยเม็ดเลือดขาวชนิด eosinophil ไม่พบพยาธิ ไข่พยาธิ หรือมะเร็ง
วินิจฉัยฝีในตับสงสัยเกิดจากพยาธิใบไม้ในตับฟาสซิโอลา (Fascioliasis) มากกว่าจากพยาธิใบไม้ในตับโอพิสธอร์คิส (Opisthorchiasis) ส่งเลือดตรวจหาแอนติบอดีต่อพยาธิใบไม้ในตับฟาสซิโอลา (Fasciola)
พร้อมแนะนำคนเหนือและคนอีสานให้ปรุงพืชน้ำไม่ควรทานสดๆ เพราะพืชน้ำเป็นตัวนำพยาธิใบไม้ในตับเข้าร่างกาย เมื่อกินเข้าไป พยาธิตัวอ่อนจะไชทะลุผ่านผนังลำไส้เล็กส่วนต้นเข้าสู่ช่องท้อง แล้วไชทะลุเข้าเนื้อตับไปเจริญเป็นตัวแก่ในท่อน้ำดีต่อไป