”ภูมิธรรม“ลงพื้นที่เชียงราย บูรณาการทุกหน่วยงาน ลุยแก้ภัยแล้ง จัดหาแหล่งน้ำ พัฒนาที่ดิน-อาชีพ-สินค้าท้องถิ่น ช่วยเกษตรกรยั่งยืน งดเผาป่า แก้ PM2.5 รับกติกาการค้าโลกใหม่
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ช่วง ครม.สัญจร จังหวัดพะเยา เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายการบริหารจัดการที่ดินและการจัดการที่ดินทำกินให้ชุมชน(คทช.)ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ซึ่งมีการส่งเสริมพัฒนาอาชีพและการตลาดกับสินค้าท้องถิ่น ที่สหกรณ์การเกษตรเวียงชัย จำกัด และนายภูมิธรรมได้เดินทางไปลงพื้นที่โครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทาน(ห้วยกิ่วนก) อ.เวียงชัย จ.เชียงราย เพื่อพัฒนาพื้นที่กักเก็บน้ำสำรองเพิ่มขึ้น ให้มีพื้นที่ได้รับประโยชน์กว่า 1,100 ไร่ และประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 300 ครัวเรือน และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ด้วย
ทั้งนี้นายภูมิธรรม กล่าวว่า อยากมาดูเรื่องการจัดการแหล่งน้ำ เพราะน้ำเป็นหัวใจสำคัญของเกษตรกร และการจัดการที่ดินทำกินให้ชุมชน ประเทศเราเป็นพื้นที่การเกษตร เรื่องที่ดินและเรื่องน้ำเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การจัดสรรสถานที่ให้ชุมชนอยู่ในระบบจะทำให้ได้รับประโยชน์ คทช.มีแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษ ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรมากขึ้น
ทั้งนี้พื้นที่ภาคเหนือส่วนใหญ่เป็นป่า จะมีความยากลำบากในการจัดสรรที่ดินทำกิน ต้องให้ทุกหน่วยงานมาบูรณาการร่วมกัน คนอยู่กับป่าต้องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมต้องรักษาป่ารักษาพื้นที่ได้ เช่น การปลูกข้าวโพดแล้วไปเผาก็จะเกิดปัญหาฝุ่นพีเอ็ม 2.5 ซึ่งระเบียบโลกใหม่เปลี่ยนไปแล้ว ถ้าเขาเห็นว่ามีการเผาทำลายป่าก็จะไม่ซื้อสินค้าของเรา อยากฝากทุกหน่วยงานให้ความรู้เกษตรกรที่เกี่ยวข้องว่าโลกปัจจุบันกติกาการค้าเปลี่ยน ถ้าไม่ทำตามกติกาก็จะขายไม่ได้ การเริ่มทำก่อนเป็นการนำไปข้างหน้า ถ้าเราทำสำเร็จก่อน คนอื่นจะสู้เราไม่ได้
“เราตั้งใจจัดการที่ดินให้สามารถรักษาธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและประชาชนให้สามารถใช้ประโยชน์ได้ จะเกิดกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เศรษฐกิจการค้าไปได้ เกิดการจ้างงาน เศรษฐกิจหมุนเวียน และผลผลิตต้องพัฒนาให้มีศักยภาพ เพิ่มสตอรี่ เพิ่มนวัตกรรม ใช้เทคโนโลยีมาทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นได้ และต้องใช้หลัก 3C ที่ท่านนายกฯให้ไว้ ยึดถือประชาชนเป็นหลัก ยึดผลประโยชน์ของประชาชน ประสานร่วมมือกันทุกหน่วยงาน และให้มั่นใจว่าทำได้”นายภูมิธรรมกล่าว