คาดยอดขาย “รถยนต์NEV” ทั่วโลก ทะลุ 39 ล้านคัน ภายในปี 2030
สำนักข่าวซินหัว อ้างรายงานที่เผยแพร่โดยไชน่า อีวี100 (China EV100) คลังสมองด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และแมคคินซีย์ แอนด์ คอมพานี (McKinsey & Company) เปิดเผยว่ายอดจำหน่ายยานยนต์นั่งโดยสารพลังงานใหม่ทั่วโลกจะสูงเกิน 39 ล้านคันภายในปี 2030 ซึ่งจะทำให้อัตราการเข้าถึงตลาดเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 50 จากเกือบร้อยละ 20 ในปีก่อนที่มียอดจำหน่ายกว่า 13 ล้านคัน
รายงานหัวข้อ “สู่เส้นชัยปี 2030 : แนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก” (Racing to 2030: Outlook on the Development of Global EV Industry) ระบุว่าอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะในแง่ของภูมิทัศน์ตลาด ความต้องการของผู้บริโภค ความสามารถทางเทคโนโลยี และระบบห่วงโซ่อุปทาน
แม้อัตราความแพร่หลายของยานยนต์พลังงานใหม่ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่าความแตกต่างของการพัฒนายานยนต์ดังกล่าวในระดับภูมิภาคได้ปรากฏชัดเจนมากขึ้นเช่นกัน
อัตราการเข้าถึงตลาดของยานยนต์โดยสารพลังงานใหม่ในสหภาพยุโรป เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ คาดว่าจะสูงถึงร้อยละ 65 มากกว่าร้อยละ 55 และมากกว่าร้อยละ 50 ตามลำดับ ภายในปี 2030 ส่วนในญี่ปุ่น อินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และลาตินอเมริกา คาดว่าจะสูงร้อยละ 27 ร้อยละ 10 ร้อยละ 30 และร้อยละ 14 ตามลำดับ
รายงานคาดการณ์อัตราการเข้าถึงตลาดของยานยนต์โดยสารพลังงานใหม่ในจีนแตะร้อยละ 70 ภายในปี 2030 โดยบริษัทยานยนต์ของจีนมีแนวโน้มที่จะติด 1 ใน 10 อันดับแรกของผู้จำหน่ายยานยนต์ทั่วโลก
ติมูร์ กุล ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีพลังงานขององค์การพลังงานระหว่างประเทศ ระบุว่าตลาดจีนเข้าสู่ระยะใหม่ของการค้าแล้ว โดยได้รับแรงหนุนจากนวัตกรรมเทคโนโลยีและความต้องการของผู้บริโภคที่มากขึ้น
รายงานระบุว่าการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เชื่อมโยงใกล้ชิดกับนวัตกรรมในแบตเตอรี่และมอเตอร์ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนส่งเสริมการใช้พลังงานไฟฟ้าและความนิยมของยานยนต์พลังงานใหม่ ขณะที่เทคโนโลยีขั้นสูงต่างๆ อาทิ การขับขี่อัจฉริยะ และเจเนอเรทีฟเอไอ (Generative AI) ช่วยผลักดันให้ยานยนต์พลังงานใหม่สามารถส่งมอบบริการอัจฉริยะที่ดียิ่งขึ้นได้
อนึ่ง รายงานดังกล่าวเผยแพร่ระหว่างการประชุมไชน่า อีวี100 ปี 2024 (China EV100 Forum 2024) ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันอาทิตย์ (17 มี.ค.) ที่ผ่านมา ในกรุงปักกิ่งของจีน