ไทยอันดับ 1 ผลิตยานยนต์มากที่สุดในอาเซียน จ่อ ยกระดับสู่ศูนย์กลางแห่งอนาคต

wewy (1)

ไทยอันดับ 1 ผลิตยานยนต์มากที่สุดในอาเซียน จ่อ ยกระดับสู่ศูนย์กลางแห่งอนาคต

โฆษกรัฐบาล เผยผลประเทศไทยอันดับ 1 ประเทศผู้ผลิตยานยนต์มากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และอันดับด้านการแพทย์ดีที่สุดระดับโลก ตอกย้ำศักยภาพประเทศตามวิสัยทัศน์นายกฯ ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) ศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub)

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศวิสัยทัศน์ 8 ด้าน ให้ไทยก้าวขึ้นเป็นที่ 1 ในภูมิภาค โดยมุ่งมั่นส่งเสริมทุกด้านที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ และเป็นด้านที่ไทยมีศักยภาพ โดยเฉพาะการเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต (Future Mobility Hub) และศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Hub) ทั้งนี้ เห็นความคืบหน้าจาก ไทยครองอันดับ 1 ประเทศผลิตรถยนต์มากที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปี 2566 และผลการจัดอันดับ 250 โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกประจำปี พ.ศ. 2567 (250 World’s Best Hospitals 2024) ที่จัดให้โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ของไทย อยู่ในอันดับที่ 130 (สูงกว่าปีที่แล้วที่เคยอยู่ในอันดับที่ 182)

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยถึงผลสำรวจจำนวนการผลิตรถยนต์ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งจัดโดยสมาพันธ์อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอาเซียน พบว่าไทยได้ครองอันดับหนึ่งผู้ผลิตรถยนต์มากที่สุดในปี 2566 จำนวนการผลิตรถยนต์ของไทยอยู่ที่ 1,841,663 คัน ด้วยจุดแข็งที่รัฐบาลสนับสนุนการลงทุน และสนับสนุนบรรยากาศแวดล้อมที่เหมาะสมกับการลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างเข้มแข็งและพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของแรงงานมีฝีมือไทยให้แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในสายตานานาชาติ รวมทั้งปัจจัยด้านการขนส่ง จึงทำให้ไทยมีฐานการผลิตของบริษัทรถยนต์ชั้นนำจากทั่วโลก ทั้งนี้ รัฐบาลมุ่งรักษามาตรฐานการผลิตและการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าให้แข็งแกร่งและยั่งยืน เพื่อมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคตของไทย

พร้อมกันนี้ นิตยสาร Newsweek ประกาศผลการจัดอันดับ 250 โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในโลกประจำปีพ.ศ. 2567 ( 250 World’s Best Hospitals 2024) โดยมีโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ของไทย อยู่ในอันดับที่ 130 (สูงกว่าปีที่แล้วที่เคยอยู่ในอันดับที่ 182 ) World’s Best Hospitals 2024 – Newsweek Rankings และการจัดอันดับ โรงพยาบาลที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี 2567 (World’s Best Hospitals 2024 – Thailand) จำนวน 30 แห่ง มีโรงพยาบาลรัฐบาลหรือในกำกับของรัฐติดอันดับรวม 12 แห่ง ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข 3 แห่ง World’s Best Hospitals 2024 – Thailand (newsweek.com) ด้วยการวัดผลคะแนนจากเกณฑ์ 4 ด้าน ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 ธันวาคม 2566 ได้แก่
1) การสำรวจออนไลน์จากแพทย์ ผู้บริหารโรงพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากกว่า 85,000 ราย จากโรงพยาบาล 2,400 แห่ง ใน 30 ประเทศ
2) ความพึงพอใจของผู้ป่วยหลังเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
3) ดัชนีคุณภาพของโรงพยาบาลที่ครอบคลุมถึงมาตรการด้านสุขอนามัย ความปลอดภัยของผู้ป่วยและอัตราส่วนผู้ป่วย/แพทย์หรือพยาบาลต่อผู้ป่วย และ
4) การใช้แบบประเมินผลลัพธ์ด้านการรักษาพยาบาลของผู้ป่วย (Patient Reported Outcome Measures: PROMs) จึงเป็นการตอกย้ำศักยภาพด้านการแพทย์ของไทย

“นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นในศักยภาพของไทย และมีแนวทางการทำงานที่จะเห็นผลความสำเร็จตามวิสัยทัศน์ที่ได้ประกาศไป 8 ด้าน โดยเห็นความคืบหน้าของความสำเร็จในทุกด้าน เชื่อมั่นว่าสามารถขับเคลื่อนให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์และสุขภาพ รวมทั้งศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคตเพื่อสร้างเม็ดเงินในระบบให้ประเทศได้ในไม่ช้า พร้อมขอบคุณที่ทุกภาคส่วน ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ภาคสังคม ประชาชน พร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการผลักดันวิสัยทัศน์ตามที่ได้ประกาศไปจนเห็นความคืบหน้าในผลสำเร็จอย่างต่อเนื่อง” นายชัย กล่าว

 

แท็ก