สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 25 มี.ค. 67 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ผ่านมติเรียกร้องให้กองทัพอิสราเอลกับกลุ่มติดอาวุธ ฮามาส ของปาเลสไตน์ หยุดยิงในฉนวนกาซาโดยทันที เนื่องในเดือนรอมฎอน รวมทั้งเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันในทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข

อนึ่ง นี่นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่การโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซาเริ่มขึ้นเมื่อเกือบ 6 เดือนก่อน ที่ UNSC สามารถผ่านมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงได้สำเร็จ เนื่องจากความพยายาม 3 ครั้งที่ผ่านมา ถูกสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมหามิตรของอิสราเอล ใช้สิทธิ์ วีโต (คัดค้าน) ของสมาชิกถาวรขัดขวางมาตลอด

แต่ในการลงมติครั้งล่าสุด สหรัฐฯ ตัดสินใจงดออกเสียง เนื่องจากพวกเขาเผชิญแรงกดดันที่มากขึ้นเรื่อยๆ จากทั้งภายในและภายนอกประเทศ ให้หากทางยุติการต่อสู้ในกาซา ซึ่งทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 32,000 ศพ ขณะที่คนนับล้านต้องอพยพพลัดถิ่นและใกล้เผชิญภาวะอดอยาก

ไม่นานหลังจากที่มติคณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้รับการเผยแพร่ออกมา อิสราเอลก็ประกาศว่า นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ยกเลิกแผนส่งผู้แทนเดินทางเยือนทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ทันที ตามที่พวกเขาขู่ไว้ก่อนที่การประชุมของ UNSC จะเริ่มขึ้นว่า จะยกเลิกกำหนดการดังกล่าว หากสหรัฐฯ ไม่วีโตมตินี้

นายเนทันยาฮูระบุว่า การที่สหรัฐฯ ไม่วีโตมติเรียกร้องหยุดยิงของสหประชาชาติ คือการก้าวถอยออกจากจุดยืนเดิมอย่างชัดเจน และเสริมว่า การทำเช่นนี้จะส่งผลเสียต่อความพยายามในการทำสงครามต่อต้านกลุ่มฮามาสในกาซา รวมถึงความพยายามในการช่วยเหลือตัวประกันอีกกว่า 130 คน ที่ยังถูกจับตัวเอาไว้ดด้วย