”นายกฯ“ ลุกอภิปราย รัฐบาลพร้อมแจงทุกข้อสงสัย หากมีข้อกล่าวหาอะไรก็ขอหลักฐานขอเหตุผล
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนาย วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ซึ่งหลังจากที่ นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล หัวหน้าฝ่านค้านแถลงเปิดซักฟอก ม.152
เวลา 10.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า เป็นโอกาสอันดีที่จะมาตอบข้อสงสัย หรือหากมีประเด็นไหนที่ยังไม่ชัดเจน รัฐบาลก็จะพยายามตอบซึ่งรัฐมนตรีทุกท่านพร้อมให้ความกระจ่าง เริ่มต้นมาท่านก็พูดแรงพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสิ้นหวัง ล้มเหลว ไม่โปร่งใส ไม่ปฏิรูป ถอยหลัง ปิดบัง ทำลาย แต่ว่าก็มีอีกด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมีหวัง สำเร็จ สิทธิ พัฒนา แทนที่จะเป็นปฏิรูป ส่วนที่บอกว่าถอยหลัง ก้าวหน้า วกวน เราก็เดินหน้าไป เรามีความโปร่งใส ตนเชื่อว่าหลายอย่างที่รัฐบาลทำอยู่ก็พยายามทำให้เป็นเรื่องบวก เป็นเรื่องของอนาคต และแสงสว่าง ที่พี่น้องประชาชนจะได้เห็น แต่หากท่านยังมีข้อกังขาในเรื่องของความไม่โปร่งใส ไม่สำเร็จถดถอยก็บอกมาเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านพร้อมชี้แจง
ทำงานมา 6 เดือน มั่นใจว่าทำงานด้วยความซื่อสัตย์โปร่งใสเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สินหรือการบริหารจัดการ รัฐบาลตั้งคณะทำงานเข้ามาดูแลเรื่องหนี้นอกระบบ หนี้เกษตรกร ก็มีการพักหนี้ไม่ได้เพิกเฉยหรือไม่ได้ดูแลพี่น้องเกษตรกร เรื่องของพลังงานก็ดูแลเรื่องราคาเบนซิน ค่าไฟ ค่าน้ำมันดีเซล ปัญหายาเสพติดทำงานชัดเจน
เรื่องการท่องเที่ยว เราทำให้ประชาชนมีรายได้เข้ากระเป๋ามากขึ้น จากการดำเนินการหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวีซ่าฟรีของคนจีน ที่ทำให้การค้าระหว่างประเทศ นักธุรกิจ นักท่องเที่ยวเดินทางได้สะดวกมากขึ้น เรื่องเหล่านี้ต้องใช้เวลา แต่การพัฒนาในเรื่องนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด
เรื่องฝุ่น pm 2.5 รัฐบาลเสนอร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด แม้ว่าในอดีตหรือในปัจจุบัน จ.เชียงใหม่ จะยังมีปริมาณฝุ่นสูงติดอันดับโลก แต่หากท่านเปรียบเทียบระหว่างปีที่ผ่านมากับปีนี้ จำนวนฮอตสปอตลดลงอย่างมาก
หลายท่านวิจารณ์ว่าตนเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ขอชี้แจงว่าจาก 10 กว่าครั้ง เกือบครึ่งหนึ่งเป็นเรื่องที่ควรต้องไป เป็นเรื่องของอาเซียน และเรื่องที่มีการประชุมกันเป็นประจำอยู่แล้ว เราเป็นน้องใหม่เป็นผู้นำที่เพิ่งเข้าสู่ตำแหน่ง จึงต้องไปพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนนโยบายซึ่งกันและกัน เพื่อที่จะให้ประเทศไทยมีตัวตนบนเวทีโลก
“ทุกเรื่องต้องใช้เวลา รัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารจัดการประเทศได้เพียง 7 เดือนเท่านั้น เชื่อว่าทุกท่านทำงานหนัก รัฐมนตรีทุกท่านมีความปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชน หากท่านมีข้อเสนอแนะอะไรดีๆก็รับฟัง หากมีข้อกล่าวหาอะไรก็ขอหลักฐานขอเหตุผล ส่วนเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เชื่อว่าประเทศไทยหลังจากมีการเลือกตั้ง เรามีความก้าวหน้าไปสู่ประชาธิปไตยที่ดีขึ้น รัฐบาลยินดีรับฟังรับข้อเสนอจากสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน และรัฐมนตรีทุกท่านพร้อมให้ความกระจ่างในทุกๆเรื่อง แต่หากเป็นเรื่องที่กล่าวโทษกล่าวหาก็ขอหลักฐานมาบ้าง เราจะได้ไปทำงานกันได้“ นายกฯ กล่าว