“พริษฐ์” ย้ำก้าวไกลไม่เข้าข่ายล้มล้างฯ เตรียมแผนสำรองลุ้นคำวินิจฉัยวันนี้

“พริษฐ์” ย้ำก้าวไกลไม่เข้าข่ายล้มล้างฯ เตรียมแผนสำรองลุ้นคำวินิจฉัยวันนี้

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ กรณีการหาเสียงแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 (ม.112) เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาพรรคพยายามอย่างเต็มที่ในการชี้แจงข้อสงสัยและพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของพรรคผ่านกระบวนการยุติธรรมของศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าการกระทำของพรรคและ สส. ช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่มีการกระทำใดที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองตามข้อกล่าวหา “หากจะพูดเจาะจงเกี่ยวกับกรณี ที่มี สส.พรรคก้าวไกลในสภาฯชุดที่แล้ว ยื่นร่างแก้ไข ม.112 เราก็ต้องยืนยันว่าการกระทำของ สส. คนดังกล่าวไม่ได้เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ทั้งในเชิงของกระบวนการ และเนื้อหาสาระ เพราะท้ายสุดยื่นเข้าไปแล้วก็ต้องผ่านอีกหลายขั้นตอน”

นายพริษฐ์ ยืนยันว่า สส.ของพรรคทุกคน รวมถึงนายชัยธวัช ตุลาธน สส.แบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค และ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.แบบบัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก็จะอยู่ที่สภาฯ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ สส. เพราะน่าจะมีหลายวาระสำคัญที่เข้าสู่ที่ประชุม สส. ทุกคนอยากมีสมาธิเต็มที่ในการประชุมสภาฯ โดยเมื่อคำวินิจฉัยออกมาแล้ว ก็คงมีการฟังคำวินิจฉัยที่สภาฯ หากมีความเห็นอะไรต่อจากนั้นก็จะแถลงต่อสื่อมวลชน

หากศาลมีคำวินิจฉัยว่าให้ยุติการหาเสียงแก้ไข ม.112 นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องรอดูคำวินิจฉัยของศาลในวันนี้ แต่ยืนยันว่าสิ่งที่พรรคหรือ สส. ได้ทำลงไป ไม่มีการกระทำใดที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

สำหรับแผนรองรับกรณีถ้าคำวินิจฉัยเป็นลบ นายพริษฐ์ เผยว่า พรรคได้มีการวางแผนสำหรับทุกสถานการณ์ไว้อยู่แล้ว แต่ในเวลานี้ยืนยันว่า ทุกการกระทำของพรรคและ สส. ยังไม่มีอะไรเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง และหากศาลมีคำวินิจฉัยเป็นอื่นใด ก็ต้องรอฟังความเห็นและเหตุผล

กรณีพรรคร่วมรัฐบาลเสนอเลื่อนญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นมา นายพริษฐ์ กล่าวว่า ต้องรอดูก่อนว่าจะมีการเลื่อนญัตติขึ้นมาจริงหรือไม่ ซึ่งกำลังหารือร่วมกันระหว่างวิปทั้งสองฝ่าย “แต่หากถอยสักก้าว แล้วพูดถึงภาพใหญ่ในเรื่องนิรโทษกรรม พรรคก้าวไกลยืนยันมาโดยตลอดว่าการนิรโทษกรรมคดีการเมืองจะเป็นกุญแจเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง และพยายามฟื้นฟูระบบประชาธิปไตยที่ปกติ วิธีการอาจจะแตกต่างกันไป ซึ่งพรรคก้าวไกลจะใช้วิธีการยื่นร่างกฎหมาย ส่วนพรรคเพื่อไทยเสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ก็เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย”

อย่างไรก็ตาม หากร่างกฎหมายของเราได้เข้าพิจารณาก่อน ก็จะใช้เวทีดังกล่าวในการอภิปราย ซึ่งจะสำเร็จได้คือต้องโน้มน้าว สส. จากพรรคการเมืองอื่นๆ ให้มาเห็นชอบกับร่างกฎหมายในฉบับของพรรคก้าวไกล

พริษฐ์ วัชรสินธุ,ก้าวไกล,ม.112,ศาลรัฐธรรมนูญ

แท็ก