โฆษกรัฐบาลเผย รัฐบาลพร้อมส่งเสริมการส่งออกทุเรียนไทยไปจีนต่อเนื่อง หลังราคาทุเรียนเกรดส่งออกสูงถึง 160 บาท/กิโลกรัม ผลักดันการขนส่งผลไม้ทางบก 16 ด่าน รองรับฤดูผลไม้
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ส่งเสริมการทำงานให้รัฐบาลสนับสนุนการส่งออกทุเรียน ทำให้ยอดการส่งออกทุเรียนไทยขยายตัวต่อเนื่อง จนปัจจุบันทุเรียนเกรดส่งออก ราคาเฉลี่ยกิโลละ 160 บาท พร้อมเดินหน้าสู่เป้าในการส่งออกให้ได้ 130,000 ล้านบาท โดยเป็นผลผลิตจากภาคตะวันออกของไทยที่ออกสู่ตลาดแล้วกว่า 50% โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์ชะนี และพันธุ์ก้านยาว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมใช้มาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 2567 ควบคู่การผลักดันการส่งออกสินค้าทางบก เพื่อกระจายผลผลิตออกสู่ตลาด เพิ่มโอกาสและรายได้ให้เกษตรกร
นายชัย กล่าวว่า ข้อมูลจากกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ระบุถึงสถานการณ์ผลผลิตทุเรียนไทยในภาคตะวันออกที่เติบโตต่อเนื่อง โดยราคาทุเรียนเกรดส่งออก ราคาเฉลี่ย 160 บาทต่อกิโลกรัม ทุเรียนเกรดตกไซซ์ส่งออก ราคาเฉลี่ย 120 บาทต่อกิโลกรัม และทุเรียนตกไซซ์ ราคาเฉลี่ย 100 – 110 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่การส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ที่ถือเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ล่าสุดพบว่า ราคาเฉลี่ยของทุเรียนไทยในตลาดค้าส่งผักและผลไม้เจียงหนาน นครกว่างโจว ในช่วงวันที่ 1 – 30 เมษายน 2567 (ข้อมูลจากฝ่ายเกษตร ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว) มีราคาเฉลี่ยที่ 52.83 หยวนต่อกิโลกรัม ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 9.33% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2566 ซึ่งเดิมมีราคาเฉลี่ยที่ 48.32 หยวนต่อกิโลกรัม
ข้อมูลดังกล่าวสอดรับกับแนวทาง และมาตรการของรัฐบาลที่สนับสนุนชาวสวนทุเรียน ตั้งแต่ต้นทางการรองรับผลผลิต ผ่านมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2567 ทั้ง 6 มาตรการของกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ 1. ส่งเสริมการผลิตและการแปรรูป 2. ส่งเสริมตลาดภายในประเทศ 3. ส่งเสริมตลาดต่างประเทศ 4. เพิ่มประสิทธิภาพทางการค้า 5. อำนวยความสะดวกทางการค้า 6. กำหนดมาตรการทางกฎหมาย
ขณะที่ปลายทางด้านการส่งออก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือและเจรจากับทางจีนอย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งผลไม้จากไทยโดยตรงไปยังแต่ละมณฑลของจีน ผ่านเส้นทางส่งออกสินค้าทางบก เช่น การขยายเวลาทำการของด่าน การเพิ่มช่องทางเข้า – ออกของรถบรรทุก การเพิ่มตู้คอนเทนเนอร์ให้เพียงพอต่อความต้องการในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 นี้ ซึ่งเป็นฤดูผลไม้ของไทย โดยปัจจุบันมีด่านทางบกที่กำหนดให้เป็นจุดนำเข้า – ส่งออกผลไม้ระหว่างไทยและจีน จำนวนทั้งสิ้น 16 ด่าน ได้แก่
– ด่านฝั่งไทย จำนวน 6 ด่าน ได้แก่ ด่านเชียงของ ด่านบึงกาฬ ด่านนครพนม ด่านมุกดาหาร ด่านจันทบุรี และด่านหนองคาย
– ด่านฝั่งจีน จำนวน 10 ด่าน ประกอบด้วย ด่านในมณฑลยูนนาน 5 ด่าน ได้แก่ ด่านโม่ฮาน ด่านรถไฟโม่ฮาน ด่านรถไฟเหอโขว่ ด่านเหอโข่ว และด่านเทียนเป่า และด่านในเขตกว่างซีจ้วง จำนวน 5 ด่าน ได้แก่ ด่านโหย่วอี้กวน ด่านตงซิง ด่านรถไฟผิงเสียง ด่านหลงปัง และด่านสุ่ยโข่ว
“นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการส่งออกผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียนที่ถือเป็น King of fruits ของไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่าทุเรียนจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการผลักดันผลไม้ไทยชนิดอื่น ๆ ซึ่งมีเอกลักษณ์ มีรสที่ต่างชาตินิยมเช่นกัน ให้ได้รับความนิยมในตลาดโลกด้วย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และเพิ่มความหลากหลายให้กับอุตสาหกรรมผลไม้ของไทย เพื่อในที่สุดจะเพิ่มโอกาส ช่องทาง และรายได้ให้กับเกษตรกร และผู้ประกอบการในระยะยาว” นายชัย กล่าว