นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงภารกิจการเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยในส่วนการพบกับประธานาธิบดีมาครง ได้พูดคุยหารือกันในประเด็นด้านการต่างประเทศและประเด็นต่างๆ ดังนี้
ประธานาธิบดีมาครงยืนยันให้การสนับสนุนไทยอย่างต่อเนื่อง ในการผลักดันการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าเขตเชงเกนสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย ซึ่งอาจจะเดินหน้าดำเนินการได้ช่วงเดือนสิงหาคม หลังการเลือกตั้งสภายุโรปในเดือนมิถุนายน 2567 สำหรับเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างกันยังคงไม่เท่ากับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันผลักดันการเพิ่มเที่ยวบินระหว่างกัน
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีมาครงได้เชิญให้ไทยเข้าร่วมในการประชุมทางด้าน AI ซึ่งฝรั่งเศสจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นในปี 2568 อีกด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้เล่าว่าในช่วงรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับประธานาธิบดีมาครง มีหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย เช่น ประธาน ปตท. ประธานผู้แทนการค้าไทย ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีการพูดคุยกันอย่างดีในเชิงลึกเพื่อเดินหน้าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศต่อไป และเป้าหมายต่อไปคือจะมีการนำนักธุรกิจจากฝรั่งเศสมายังประเทศไทยในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
“ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่ 3 – 4 ชั่วโมง แต่นับว่าเป็นการพูดคุยที่ได้ประโยชน์อย่างมาก นอกจากนั้น ในวันเดียวกันนี้งาน Thailand – France Business Forum ยังประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีอีกด้วย ถือว่าเป็นการใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า และเป็นการจบภารกิจที่ฝรั่งเศสอย่างสวยงาม” นายกฯ กล่าวปิดท้าย