รัฐบาลเตรียมจัดโครงการ ASEAN Drive Tourism เส้นทางนำร่อง ไทย – มาเลเซีย

Hotnewsoumoim (84)
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว (Tourism Hub) ตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งนอกเหนือจากการให้ความสำคัญกับกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวจีนซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังซื้อและเดินทางมาประเทศไทยมากเป็นอันดับ 1 แล้ว นักท่องเที่ยวในแถบอาเซียนโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย รัฐบาลก็ให้ความสำคัญอย่างมากเช่นกัน ซึ่งขณะนี้นักท่องเที่ยวมาเลเซียรั้งเป็นอันดับ 2 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จากข้อมูลกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยสถิติของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 12 พฤษภาคม 2567 พบว่านักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย จำนวน 1,710,560 คน สำหรับปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวมาเลเซียเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยคือมาตรการยกเว้นวีซ่าของรัฐบาล และเพื่อเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งล่าสุด กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมเร่งผลักดันโครงการ ASEAN Drive Tourism เส้นทางนำร่อง ไทย – มาเลเซีย โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยว “ขับรถด้วยตนเอง” ซึ่งจะจัดทำในรูปแบบแผนที่กราฟิก (Graphic Maps) มุ่งนำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นที่โดดเด่นในพื้นที่ชายแดนใต้ของไทยและรัฐทางตอนเหนือของมาเลเซีย และยังรวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวก ที่พัก และร้านอาหาร เข้าไปด้วย นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังมุ่งส่งเสริม “การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อชาวมุสลิม” และการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับศาสนสถาน ซึ่งจะมีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศต่อไป ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถเปิดตัวโครงการ ASEAN Drive Tourism ในช่วงเดือนกรกฎาคม/สิงหาคม พ.ศ. 2567 ณ จุดผ่านแดนของทั้งสองประเทศ
“การขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย – มาเลเซีย ที่มีความก้าวหน้าทุกมิตินั้น เป็นผลงานอันเป็นรูปธรรมที่สืบเนื่องจากการเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าว
ประเภท : เศรษฐกิจ
แท็ก