นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร โดยได้มีการเน้นย้ำในที่ประชุมในเรื่องของการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เมื่อฝนตกว่ามีน้ำท่วมขังหรือไม่ เพื่อเร่งแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
หลังการประชุม นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมว่า จากฐานข้อมูลจุดเสี่ยงน้ำท่วม ปี 2565 จุดเสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพ มีจำนวนทั้งสิ้น 737 จุด โดยเป็นจุดเสี่ยงน้ำฝน 617 จุด และเป็นจุดเสี่ยงแนวริมแม่น้ำ (น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน) 120 จุด ได้ใช้งบฯ ปี 65-66 แก้ไขแล้วเสร็จ 179 จุด คาดว่าจะแล้วเสร็จทันฝนอีก 190 จุด ซึ่งจะรวมแก้ไขแล้วเสร็จทันฝนประมาณกว่า 50% ส่วนจุดที่เหลือ ได้รับงบฯ 67 จำนวน 72 จุด และของบฯ 68 เพื่อดำเนินการต่อเนื่อง
สำหรับการเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2567 ได้ดำเนินการดังนี้
1. ลดระดับน้ำรองรับสถานการณ์ฝน
2. เตรียมความพร้อมระบบระบายน้ำ อาทิ การขุดลอกคลอง ขณะนี้ดำเนินการแล้ว 179 คลอง 217 กม. (67%) การเปิดทางน้ำไหล ขณะนี้ดำเนินการแล้ว 1,310 คลอง 1,965 กม. (75%) การล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำ ขณะนี้ดำเนินการแล้ว 4,234 กม. (63%) และได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
3. เตรียมความพร้อมอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่
4. ล้างทำความสะอาด บำรุงรักษา อุโมงค์ระบายน้ำ ประตูระบายน้ำ และสถานีสูบน้ำ ประจำปี 2567
5. ตรวจ บำรุงรักษา และติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฟฟ้า ตู้เมนไฟฟ้า ตู้ควบคุมเครื่องสูบน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำชนิดเครื่องยนต์
“ปีนี้น้ำต้องระบายได้ดีขึ้น” นายวิศณุ ย้ำ
นายชัชชาติ กล่าวเสริมว่า ในปีนี้ยังมีจุดที่เป็นห่วงที่บริเวณสุขุมวิท 101/1, 103 ซึ่งอุโมงค์ระบายน้ำบึงหนองบอนถล่มไป โดยปีที่แล้วอุโมงค์บางส่วนยังใช้ระบายน้ำได้ แต่ช่วงนี้จะมีการปิดอุโมงค์บางส่วนเพื่อนำดินที่ค้างอยู่ข้างในออกและเตรียมก่อสร้างให้เสร็จภายใน 3 ปี จึงยังเป็นจุดที่เปราะบางอยู่ และต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังมีจุดที่ต้องบูรณาการกับหน่วยงานอื่น เช่น ลาดกระบัง ถนนพระราม 2 ซึ่งจะต้องบูรณาการกันให้มากขึ้น รวมถึงยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง เช่น ถนนช่างอากาศอุทิศ ดอนเมือง ที่ต้องติดตั้งปั๊มเพิ่ม
“ตอนนี้ทุกคนก็เตรียมพร้อม เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น อาจจะมีเรื่องที่ต้องระวังคือปริมาณฝนที่ตกมากเป็นจุด ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน โดยได้มีการใช้เทคโนโลยี AI ของประเทศญี่ปุ่น พยากรณ์และวิเคราะห์สถานการณ์เสริมกับสมรรถภาพของเรดาร์ กทม. เพื่อคาดการณ์ฝนล่วงหน้า 3 ชม. ให้ดีขึ้น เพื่อจัดทรัพยากรลงไปในพื้นที่ได้ละเอียดและถูกจุดมากขึ้น” นายชัชชาติ กล่าว