ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 112 ของพรรคก้าวไกล ที่ไม่สามารถใช้กระบวนการนอกสภาฯได้ ก่อนหน้านี้มีการยื่นกฎหมายนิรโทษกรรม อาจจะเกี่ยวข้องกับมาตรา 112 ด้วยนั้น ว่าต้องรอดูคำวินิจฉัยทั้งหมดของศาลรัฐธรรมนูญเพื่อนำมาประกอบ และให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงฝ่ายกฎหมายของประธานสภา ดูรายละเอียดและเสนอกลับมาอีกครั้ง
เมื่อถามว่า ถ้าหากมีการยื่นร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กับ สส.พรรคก้าวไกล ที่เคยเสนอร่างกฎหมายเมื่อปี 64 จะส่งผลอย่างไร นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องนอกสภาฯ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามขั้นตอนของผู้ที่ร้องและผู้ถูกร้องต่อองค์กรอิสระทั้งหลาย ตนไม่อาจจะก้าวล่วงได้
เมื่อถามว่า จากนี้จะมีการควบคุมการประชุมสภาฯอย่างเข้มงวดอย่างไร ต่อกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีการสั่งห้าม นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า คงดูไปตามกฎหมาย และทางสภาฯก็มีฝ่ายกฎหมายคอยกลั่นกรองอยู่แล้ว ดูไปตามขั้นตอน เป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรเข้มงวดหรือไม่เข้มงวด เป็นไปตามข้อบังคับของสภาฯ
เมื่อถามว่า หลังจากนี้การประชุมสภาฯ ไม่ควรจะไปพูดพาดพิงเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า โดยปกติแล้ว มีข้อบังคับ ที่กำหนดไว้ไม่ให้พูดถึงเรื่องสถาบันฯ และห้ามพูดถึงบุคคลภายนอก หากพูดออกไป ผู้พูดก็ต้องรับผิดชอบ ทางสภาฯจะถือข้อบังคับและกฎหมาย
และเมื่อถามย้ำว่า ต่อจากนี้เรื่องมาตรา 112 จะไม่สามารถนำมาพูดถึงในสภาฯได้อีกแล้วใช่หรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่สามารถวิจารณ์ได้ ต้องขอดูรายละเอียดของคำวินิจฉัยทั้งหมด และฝ่ายกฎหมายจะเสนอให้ประธานและรองประธานสภารับทราบต่อไป
วันมูหะมัดนอร์ มะทา,ประธานสภาผู้แทนราษฎร,ศาลรธน. ,ประชุมสภา,มาตรา112,สถาบัน,กฎหมาย,ข้อบังคับ