รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat วิเคราะห์การระบาดของไทยติดกันเยอะต่อเนื่อง สัปดาห์ล่าสุด 12-18 พฤษภาคม 2024 จำนวนผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล 1,882 ราย เสียชีวิต 16 ราย ปอดอักเสบ 679 ราย และใส่ท่อช่วยหายใจ 281 รายผู้ป่วยนอนรพ.มากกว่าสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย และขึ้นต่อเนื่อง 10 สัปดาห์ติดต่อกัน
จำนวนปอดอักเสบ เพิ่มขึ้น 15.5% ขึ้นต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ ถือว่าสูงสุดในรอบ 20 เดือน นับตั้งแต่ 10 กันยายน 2565
ใส่ท่อช่วยหายใจก็เพิ่มขึ้น 18.6% ขึ้นต่อเนื่อง 9 สัปดาห์ สูงสุดในรอบเกือบ 17 เดือน นับตั้งแต่ 31 ธันวาคม 2565
เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 45.5% ขึ้นต่อเนื่อง 4 สัปดาห์ สูงสุดในรอบ 10 เดือน นับตั้งแต่ 8 กรกฎาคม 2566
หากเทียบกับสัปดาห์ก่อนสงกรานต์ สัปดาห์ล่าสุดนี้ ป่วยนอนรพ.เพิ่มขึ้น 2.4 เท่า ในขณะที่ปอดอักเสบและใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มขึ้น 3 เท่า และเสียชีวิตมากขึ้น 5.3 เท่า ปัจจุบันโควิด-19 ระบาดมากจริงๆ ดังที่เราเห็นกันรอบตัว เปิดเทอมมีโอกาสมากขึ้นไปอีก ทั้งคนทำงาน นักเรียน นิสิตนักศึกษา และในครัวเรือนสำหรับการลดระบาดจากโรงเรียนและสถานศึกษานั้น มี 2 เรื่องคือ
สถานศึกษาควรเตรียมห้องเรียนแยกสำหรับเด็กที่มีอาการป่วย ระหว่างรอผู้ปกครองมารับกลับบ้าน ไปพักรักษาตัว และวางแผนการเรียนออนไลน์ หรือบทเรียนเสริมเท่าที่เด็กสามารถทำได้ สำคัญคือดูแลสุขภาพ พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรสังเกตอาการของลูกในแต่ละวัน ก่อนไปส่ง และหลังรับกลับจากโรงเรียน ส่วนเด็กโต นิสิต นักศึกษาก็ควรประเมินตนเอง หากมีอาการป่วย ควรตรวจ atk ถ้าติดเชื้อก็หยุดรักษาตัวเสียก่อน และระมัดระวังการแพร่เชื้อติดเชื้อกันในบ้านหรือหอพักด้วย
สำหรับประชาชนทั่วไป ช่วงนี้ติดกันเยอะมากนะครับ ควรใส่หน้ากากป้องกันตัว ระวังที่แออัด เลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดผู้อื่นนอกบ้านโดยไม่ได้ป้องกันตัว ไม่แชร์ของกินของใช้กับผู้อื่น และที่สำคัญคือ คอยสังเกตและรักษาระยะห่างจากคนที่มีอาการป่วย
รศ.นพ.ธีระ ยังวิเคราะห์ตัวเลขผู้เสียชีวิต จากโควิด-19 ในปี 2567 หากไปดูในเว็บไซต์กรมควบคุมโรค จะพบว่าสถิติเสียชีวิตสะสมที่รายงานจนถึงสัปดาห์ล่าสุดนั้นอยู่ที่ 120 ราย แต่พอไปดูรายละเอียดรายพื้นที่ จำแนกตามภูมิภาค จะพบว่าจำนวนรวมอยู่ที่ 122 ราย (อาจเป็นไปได้ว่า 2 รายที่ต่างกันนั้นเป็นผลจากวันเวลาที่เสียชีวิตก่อน 1 ม.ค. 2024)
เยอะสุดคือ กรุงเทพมหานคร 67 ราย
ในขณะที่ข้อมูลผู้เสียชีวิต จำแนกตามช่วงอายุนั้น มีแสดงเฉพาะสัปดาห์ล่าสุด 16 ราย โดยอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปจำนวน 13 ราย และอายุน้อยกว่า 60 ปี 3 ราย
หากจำกันได้ ช่วงปลายเมษายน เคยมีการออกข่าวเกี่ยวกับลักษณะผู้ป่วยที่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 148 ราย
เป็นคนที่ไม่ใช่สูงอายุคือ 0-59 ปี ถึง 55 ราย หรือ 37.1% นั่นคือกว่า1ใน3เป็นข้อมูลที่เน้นย้ำให้เราทราบว่า ไม่ใช่สูงอายุ ก็ควรป้องกันตัวให้ดีโดยแท้จริงแล้ว รายละเอียดเชิงประชากรนั้นมีความสำคัญมาก ควรมีการนำเสนออย่างละเอียด ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยนอนรพ. ปอดอักเสบ ใส่ท่อ และเสียชีวิต เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาและทำความเข้าใจสถานการณ์ เพื่อดูแลตนเองได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม และทันต่อสถานการณ์