สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างข้อมูลของ FlightRadar24 เว็บไซต์ติดตามไฟลต์บินทั่วโลกแบบเรียลไทม์ ระบุว่าขณะเกิดเหตุมีพายุซึ่งบางจุดมีความรุนแรง ทำให้เที่ยวบินพบกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในแนวดิ่ง สอดคล้องกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ขณะนั้นเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง รอยเตอร์ยังระบุถึงปรากฏการณ์หลุมอากาศในวันฟ้าใส (Clear Air Turbulence หรือ CAT) ซึ่งเป็นหลุมอากาศที่เกิดขึ้นแบบกะทันหันและรุนแรง จึงยากจะตรวจจับหลุมอากาศประเภทนี้ได้ล่วงหน้า ที่พบได้บ่อยขึ้นในปัจจุบันเป็นผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
มาร์ก พรอสเซอร์ จากมหาวิทยาลัย เรดดิ้ง กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินของสิงคโปร์แอร์ไลน์น่าจะเกี่ยวข้องกับหลุมอากาศเกี่ยวเนื่องกับพายุ แม้ว่าจะเร็วเกินไปที่จะสรุปในขณะนี้ก็ตาม ทั้งนี้ ได้มีการเริ่มต้นทำการสอบสวนแล้ว โดยผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า อุบัติเหตุของเครื่องบินมักจะเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัยรวมกัน
สิงคโปร์แอร์ไลน์ระบุว่า เกิดหลุมอากาศกะทันหันเหนือลุ่มน้ำอิรวดีในเมียนมา ราว 10 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง ขณะที่นักบินรายหนึ่งที่มักจะบินไปยังสิงคโปร์และประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นประจำ ระบุว่า มีโอกาสจะเกิดหลุมอากาศอยู่เสมอ เพราะพายุฝนฟ้าคะนองในอ่าวเบงกอลไม่ใช่เรื่องที่พบได้ยาก
ซารา เนลสัน ประธานของสมาคมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกว่า 50,000 คน จาก 20 สายการบิน ระบุว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ผู้โดยสารจะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งที่นั่ง ถือเป็นเรื่องของชีวิตและความตาย