นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย กล่าวถึงมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สำนักอนามัย (สนอ.) ได้ประสานความร่วมมือกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และกรมปศุสัตว์ เพื่อติดตามสถานการณ์และข้อมูลการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง และได้ร่วมกับสำนักงานเขต 50 เขต ดำเนินมาตรการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วยการออกหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่เฝ้าระวังโรคเชิงรุกติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในฟาร์มสัตว์ปีก สนามชนไก่ สถานประกอบการที่เกี่ยวกับสัตว์ปีก และสถานที่ที่มีนกพิราบรวมฝูงกันจำนวนมาก รวมทั้งออกหน่วยเคลื่อนที่แก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับสัตว์ปีกจากประชาชน ในกรณีพบสัตว์ปีกป่วยตายเป็นจำนวนมากและสงสัยการติดเชื้อไข้หวัดนก สนอ. จะประสานความร่วมมือสำนักงานปศุสัตว์พื้นที่กรุงเทพฯ และสำนักงานเขตลงพื้นที่สอบสวนควบคุมโรคทั้งในคน และสัตว์ กักกันโรค พ่นน้ำยาทำลายเชื้อโรค วางแผนการลดจำนวนสัตว์ปีกในพื้นที่พบโรค และสุ่มเก็บตัวอย่างจากสัตว์ปีกตรวจเชื้อโรคไข้หวัดนก ทั้งนี้ ปัจจุบันจากผลการสุ่มตรวจตัวอย่างสัตว์ปีกยังไม่มีรายงานการตรวจพบเชื้อไข้หวัดนกในพื้นที่กรุงเทพฯ
นอกจากนั้น ได้ร่วมกับกรมปศุสัตว์ส่งเสริมความรู้และให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเฝ้าระวัง และป้องกันโรคไข้หวัดนกแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีก ผู้ประกอบการ และตลาดค้าสัตว์ปีกมีชีวิตในพื้นที่กรุงเทพฯ หากพบว่า มีความเสี่ยง หรือความผิดปกติของสัตว์ปีกให้แจ้ง สนอ. หรือสำนักงานเขต และให้งดการนำสัตว์ปีกนั้นไปจำหน่ายจ่ายแจก ประกอบอาหารหรือรับประทาน กรณีจำเป็นต้องสัมผัสสัตว์ปีกป่วยตาย ผู้เลี้ยงสัตว์ปีกต้องสวมใส่ถุงมือป้องกัน และล้างมือให้สะอาดหลังการสัมผัสซากสัตว์ปีกทุกครั้ง หากมีอาการเจ็บป่วย เช่นมีอาการไข้ ปวดศีรษะ หนาวสั่น เจ็บคอและไอ ให้รีบพบแพทย์ และแจ้งว่า ทำงาน หรือใกล้ชิดกับสัตว์ปีก
โดยสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานครได้ดำเนินการมาตรการเชิงรุกเฝ้าระวังโรคไข้หวัดนกในโซนค้าสัตว์ปีกมีชีวิต ในตลาดในความรับผิดชอบที่มีโซนการจำหน่ายสัตว์เลี้ยงประเภทสัตว์ปีก 2 ตลาด คือ ตลาดธนบุรีและตลาดนัดมีนบุรี โดยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้ค้าระมัดระวังป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนก ตรวจสอบการมีใบอนุญาตการจำหน่ายสัตว์เลี้ยง ตรวจวิเคราะห์ ทดสอบ และชันสูตรโรคสัตว์ อีกทั้งร่วมกับกรมปศุสัตว์ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกเป็นประจำ
นอกจากนี้ สนอ. ได้ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมความรู้ให้ประชาชนปลอดภัยจากโรคไข้หวัดนก ให้คำแนะนำเกี่ยวกับอันตรายของเชื้อโรคที่มากับนกพิราบและนกชนิดต่างๆ โดยประสานเขตรณรงค์ติดป้ายขอความร่วมมือประชาชนงดให้อาหารนกในสวนสาธารณะของ กทม. และพื้นที่สาธารณะต่างๆ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนถึงผลกระทบจากการให้อาหารจะทำให้มีจำนวนนกพิราบเพิ่มขึ้น ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญจากมูลนกและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนจากการแพร่เชื้อโรคต่างๆ จากนกมาสู่คน เช่น โรคไข้สมองอักเสบ โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดอักเสบ รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนไม่ให้อาหารนกอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 โดยผู้ให้อาหารและผู้จำหน่ายอาหาร มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
ทั้งนี้ สำนักสิ่งแวดล้อมได้ติดป้ายขอความร่วมมือประชาชนงดให้อาหารนกพิราบในสวนสาธารณะที่อยู่ในความดูแล และสวน 15 นาทีทุกแห่ง เพื่อดูแลสุขภาพอนามัยของผู้ใช้บริการสวนสาธารณะที่อาจจะได้รับเชื้อราจากมูลนกพิราบ ซึ่งมีความเสี่ยงทำให้เป็นโรคปอดอักเสบและป้องกันเหตุเดือดร้อนรำคาญ พร้อมทั้งได้กำชับเจ้าหน้าที่ออกตรวจตราพื้นที่ หากพบการให้อาหารนกพิราบให้ทำความเข้าใจตักเตือน และประสานสำนักอนามัย กทม. ร่วมตรวจสอบ ประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึงอันตรายและข้อปฏิบัติในการใช้พื้นที่สาธารณะ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกเพศทุกวัยที่มาใช้บริการและเป็นไปตามกฎหมาย
แนะประชาชนหลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ปีกที่มีอาการป่วย หรือตาย ห้ามนำสัตว์ปีกป่วยตายมาปรุงอาหาร รวมทั้งควรรับประทานเนื้อสัตว์ปีกและไข่ที่ปรุงสุกเท่านั้น สำหรับไข่ควรเลือกที่สดใหม่ และไม่มีมูลติดปนเปื้อนที่เปลือกไข่ หากพบผู้ป่วยจากการสัมผัสสัตว์ปีกให้แจ้งสายด่วนสนอ. โทร. 0-2203-2872 หรือสายด่วนกทม. 1555 ทันที