นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ได้เป็นผู้อภิปรายถึงภาพรวมงบประมาณในปีนี้ โดยระบุว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ฉบับนี้ กำหนดวงเงินงบประมาณรายจ่ายสูงเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 3.75 ล้านล้านบาท ซึ่งเงินที่จะนำมาใช้จ่ายมาจากรายได้รัฐบาลและเงินกู้ เป็นการจัดงบประมาณแบบขาดดุลต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว โดยประมาณการรายได้รัฐบาลประมาณไว้ว่าจะมีรายได้สุทธิถึงกว่า 2.88 ล้านบาท ที่เหลือเอามาจากเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 8.65 แสนล้านบาท เป็นวงเงินกู้ที่เกือบชนเพดาน เหลือพื้นที่กู้เพิ่มได้แค่ราว 5 พันล้านบาทเท่านั้น
คำถามคือการเพิ่มงบประมาณรายจ่ายของประเทศอย่างก้าวกระโดด โดยกู้เงินมาใช้จนเกือบชนเพดานสอดคล้องกับสถานการณ์หรือไม่ เมื่อไปดูในรายละเอียดก็ยิ่งผิดหวังกว่าครั้งก่อน เพราะเป็นการจัดสรรงบประมาณที่แทบจะเหมือนเดิม มีปัญหาแบบเดิมๆ แต่หากจะมีอะไรใหม่สำหรับวาระของรัฐบาลที่สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจน ก็คงมีแค่เรื่องเดียวคือความพยายามผลักดันในระดับที่ดันทุรัง เพื่อทำให้ดิจิทัลวอลเล็ตสำเร็จให้ได้ เรียกได้ว่าดันทุรังแบบ “เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้” ซึ่งผลของการพยายามจัดสรรงบประมาณมาใช้เสี่ยงที่จะทำให้เกิดปัญหาทางการคลัง
สุดท้ายนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่ดันทุรังอยู่ขณะนี้ไม่ได้ตอบโจทย์ของประเทศจริงๆ การจัดสรรงบประมาณประจำปี 2568 ก็จะเป็นการจัดสรรงบที่ไม่ได้เอาโจทย์ของประเทศเป็นตัวตั้ง แต่เอาโจทย์ของพรรคแกนนำรัฐบาลเป็นตัวตั้ง รัฐบาลนี้กำลังมุ่งแก้ปัญหาวิกฤติทางการเมืองของตัวเองโดยเอาโอกาสและอนาคตของประเทศวางเป็นเดิมพันอย่างที่ประเทศเจ๊งไม่ว่า แต่ต้องรักษาหน้าพรรคแกนนำรัฐบาลให้ได้
“การจัดสรรงบประมาณฉบับนี้ สะท้อนให้เห็นว่าสืบเนื่องจากปัญหาความไม่ชอบธรรมทางการเมืองของการจัดตั้งรัฐบาล โจทย์ของรัฐบาลในวันนี้จึงเป็นคนละโจทย์กับของประเทศ การจัดสรรงบประมาณอย่างที่เห็นนี้จึงเป็นการจัดสรรงบประมาณที่มักง่ายที่สุด สุ่มเสี่ยงที่สุด เพราะรัฐบาลกำลังเอาทรัพยากรของประเทศไปมุ่งแก้วิกฤติการเมืองของตัวเอง โดยเอาโอกาสและอนาคตของคนไทยทุกคนและของประเทศมาวางเดิมพันอย่างไม่รับผิดชอบ วิสัยทัศน์อย่าง ‘Ignite Thailand’ จึงกลายเป็น ‘Ignore Thailand’ เจ๊งไม่ว่าแต่เสียหน้าไม่ได้”