“นภินทร” เคลียร์ชัด! ยังไม่เห็นหมาย กกต. คดีฮั้ว สว. ลั่นไม่หวั่น พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงทุกประเด็น

“นภินทร” เคลียร์ชัด! ยังไม่เห็นหมาย กกต. คดีฮั้ว สว. ลั่นไม่หวั่น พร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงทุกประเด็น

“นภินทร” ไม่หวั่น! แจงชัดปม “ฮั้ว สว.” มั่นใจไร้เอี่ยว รับหมายเรียกพร้อมชี้แจงทุกข้อสงสัย!

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดใจหลังมีกระแสข่าวว่าถูกออกหมายเรียกจาก กกต. กรณีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับหมายเรียกอย่างเป็นทางการจากภูมิลำเนาที่จังหวัดราชบุรี พร้อมมั่นใจว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว และพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงกับ กกต. หากถูกเรียกตัว พร้อมปฏิบัติตามกระบวนการอย่างเต็มที่ ทั้งนี้นายนภินทร ยังระบุว่า ไม่เห็นว่าตนเองมีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ เพราะปฏิบัติตามคำสั่งหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอย่างเคร่งครัด ไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเลือก สว. ส่วนกรณีที่มองว่าเป็นนิติสงครามระหว่างฝ่ายการเมืองสีแดง-น้ำเงินนั้น เขาเห็นว่าเป็นเรื่องของบุคคล ไม่ควรนำไปตีความในเชิงแบ่งขั้วทางการเมือง และยืนยันว่าการทำงานร่วมกับทุกฝ่ายยังเป็นไปด้วยดี ไม่มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน อย่างไรก็ตามยังไม่ได้พูดคุยกับผู้ที่มีชื่อเกี่ยวข้องในกรณีนี้ แต่ได้รับการติดต่อจากเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยให้ไปชี้แจง พร้อมมั่นใจว่าจะสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงได้ทั้งหมด โดยขอให้ประชาชนอย่าคิดไกลเกินไปและรอความชัดเจนจากกระบวนการตรวจสอบของ กกต.

“ไผ่” ซัดกลับ “เท้ง” ปม ส.ส.ย้ายพรรค บอกชัด! สนิมเนื้อใน ไม่เกี่ยวกล้าธรรมดูดคน

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร และเลขาธิการพรรคกล้าธรรม ตอบโต้กรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เรียกร้องให้เปิดรายชื่อ สส.ที่เตรียมย้ายซบกล้าธรรม โดยระบุว่า การตามหาคน “นอกใจ” ควรเป็นหน้าที่ของพรรคประชาชน ไม่ใช่ของพรรคกล้าธรรม พร้อมย้ำไม่มีการดูด สส. แต่ปัญหาเกิดจาก “สนิมเนื้อใน” ที่อยู่กันเองไม่ได้ ชี้แจงว่า ขณะนี้พรรคมุ่งทำงานเชิงนโยบายกับกระทรวงเกษตรฯ มากกว่าเล่นการเมืองใส่ร้าย สำหรับกรณีการยื่นตรวจสอบจริยธรรมนายยอดชาย พึ่งพร สส.ชลบุรี พรรคประชาชน นายไผ่ยืนยันว่าเป็นการดำเนินการในนามส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับพรรค หากมีหลักฐานก็ขอให้เปิดเผยต่อสาธารณะ หรือส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ จะได้ชัดเจนว่าใครถูกใครผิด

“ชะลอไม่ใช่เลิก!” “ชูศักดิ์”ยันแจกเงินดิจิทัลไม่ขัดนโยบาย

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีชะลอโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 ว่าไม่ได้ถือว่าขัดต่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพราะที่ผ่านมาโครงการเฟส 1-2 ได้เริ่มดำเนินการแล้ว และโครงการเฟส 3 เพียงแค่ “ชะลอ” ไม่ใช่ “ยกเลิก” โดยย้ำว่าการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ใช่เรื่องผิด แต่อยู่ในกรอบของการใช้กลไกอื่นๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาวะที่เปลี่ยนแปลง ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ปัดตอบเรื่องความพร้อมของระบบจ่ายเงินดิจิทัลเฟส 3 โดยระบุว่าขอให้ไปถามกระทรวงการคลังซึ่งดูแลเรื่องนี้โดยตรง พร้อมยืนยันว่าระบบพร้อมใช้งาน ไม่มีปัญหาใด ๆ และยังไม่มีการพูดคุยถึงการยกเลิกโครงการแต่อย่างใด

เพื่อไทยยัน! ดิจิทัลวอลเล็ต “แค่เลื่อน” ไม่เลิก แจงชะลอตามสถานการณ์โลก ปัดกระทบฐานเสียง

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ชี้แจงกรณีคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจมีมติชะลอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ว่า ไม่ใช่การยกเลิก แต่เป็นเพียงการเลื่อนตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและคำแนะนำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยยังยืนยันว่าโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเองก็ระบุชัดว่าจำเป็นต้องฟังเสียงทุกภาคส่วน ทั้งนี้เมื่อถูกถามว่าเรื่องนี้จะกระทบต่อฐานเสียงของพรรคหรือไม่ นายสรวงศ์ระบุว่า โครงการนี้ยังอยู่ ไม่ได้หายไปไหน เพียงแค่ปรับแผนตามความเหมาะสม และพรรคจะทำความเข้าใจกับประชาชนว่าโลกปัจจุบันมีปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สิ่งที่สำคัญคือการยืดหยุ่นและเดินหน้าในทุกมิติที่ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ ไม่ใช่แค่การแจกเงิน แต่รวมถึงการลงทุนที่สร้างผลได้ในระยะยาว

รัฐบาลทบทวนแผนดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3-4 มูลค่า 1.57 แสนล้านบาท

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผย ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ มีมติให้ชะลอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในเฟสที่ 3 และ 4 วงเงินรวม 1.57 แสนล้านบาทออกไปก่อน เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่เป็นไปตามเป้าหมายเดิม พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำโครงการใหม่ที่มีความจำเป็นและเหมาะสมตามข้อเสนอของ สศช. และ ธปท. ทั้งนี้สำหรับงบประมาณดังกล่าวจะนำไปใช้ใน 6 โครงการเร่งด่วน ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำ การคมนาคม เช่น รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ และถนน การแก้ปัญหารถติด โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง สร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ การช่วยเหลือด้านการศึกษาเยาวชน และสนับสนุนเอสเอ็มแอลที่ได้รับผลกระทบจากการส่งออก รวมถึงการทบทวนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ราว 0.7-1% ขณะที่ สศช. คาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2568 จะขยายตัวเพียง 1.8% โดยเฉพาะในไตรมาส 3 และ 4 ที่อาจเติบโตเพียง 1% เท่านั้น จึงจำเป็นต้องปรับแผนใช้เงินอย่างระมัดระวัง ขณะที่โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน 2568” ยังไม่เข้าที่ประชุม ครม. […]