ครม. อนุมัติงบ 2.8 พันล้านบาท อุ้ม กยศ. ปล่อยกู้เรียนภาค 1 ปี 2568

  ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2568 มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 2,838.64 ล้านบาท ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนและส่งเสริมการศึกษา ด้วยการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาแก่นักเรียนหรือนักศึกษา ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)   ทั้งนี้สำนักงบประมาณแจ้งว่า นายกรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ กยศ.ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในกรอบวงเงิน 2,838.64 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา (เริ่มดำเนินการให้กู้ยืมตั้งแต่เดือน เม.ย.2568)   อย่างไรก็ตามให้ กยศ.เร่งดำเนินนโยบายในการกระตุ้นการชำระหนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ตามขั้นตอนทาง กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกมิติ เพื่อให้มีเงินเพียงพอต่อการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ.2568        

ททท. มั่นใจ ดึงนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวไทย 8 ล้านคน เดินหน้ากระตุ้นตลาดต่อเนื่อง

  น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ยืนยันเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย 8 ล้านคนในปี 2568 แม้มีความท้าทาย โดยเตรียมแผนกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่องผ่านโรดโชว์รายไตรมาส เจาะเมืองรองของจีน เช่น กว่างเจา ซีอาน และฉงชิ่ง พร้อมสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยของไทยให้กลับมา   ทั้งนี้ ททท. จะร่วมมือกับภาคเอกชนดึงกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงประชุม (ไมซ์) และนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์   ขณะเดียวกัน เตรียมจัด “แกรนด์ เฟสติวัล” ดึงศิลปินระดับโลกมาจัดคอนเสิร์ต หวังขยายฐานนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

“ทีดีอาร์ไอ” ค้านแนวคิดซื้อหนี้ประชาชน ชี้เป็นเพียงการบรรเทาปัญหาระยะสั้น

  นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากทีดีอาร์ไอ แสดงความเห็นคัดค้านแนวคิดซื้อหนี้ประชาชนออกจากระบบธนาคาร โดยมองว่าอาจช่วยลดปัญหาหนี้ระยะสั้น แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างได้ถาวร พร้อมชี้ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ระบบการเงินชะลอตัวคือ Financial Disaffiliator หรือภาวะที่หนี้สูงจนกระทบต่อการปล่อยกู้และการหมุนเวียนเงินในระบบ ทั้งนี้ เสนอให้เน้นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างมากกว่าการแก้ไขแบบเร่งด่วน นอกจากนี้ ยังกล่าวถึงการตั้งสำนักงานดิจิทัลวอลเล็ตว่า หากบริหารจัดการดีและมีความปลอดภัยสูง จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนได้          

“พิชัย” โว คิดก่อน “ทักษิณ” ไอเดียซื้อหนี้ธนาคาร ชู 2-3 แนวทาง อิงโมเดลแก้วิกฤตปี 40

  นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เผยว่าแนวคิดซื้อหนี้ประชาชนจากธนาคารเป็นแนวทางที่มีอยู่แล้วหลายวิธี ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้หรือใช้แนวทางคล้ายช่วงวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 เช่น การแยกบัญชีหรือจัดตั้ง AMC ร่วมกับธนาคารและภาคเอกชน โดยยืนยันว่าตนคิดเรื่องนี้มานานแล้ว และกำลังพิจารณารายละเอียดการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ยังต้องรอข้อมูลและความเห็นจากทุกฝ่ายก่อนตัดสินใจ พร้อมหารือสมาคมธนาคารเกี่ยวกับแนวทางดังกล่าว   ทั้งนี้ มาตรการอาจครอบคลุมทั้งลูกหนี้เสีย (NPL) และลูกหนี้ดี รวมถึงหนี้บ้านและหนี้รถ