‘นันทนา’ หนุนดีเอสไอสอบฮั้วเลือก สว. ซัดมุ้งใหญ่ อย่าร้อนตัว-อย่าปิดปากตรวจสอบ

น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภากลุ่มพันธุ์ใหม่ สนับสนุนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับคดีฮั้วเลือก สว. ปี 2567 เป็นคดีพิเศษ เนื่องจาก กกต. ยังไม่มีความคืบหน้าในการสอบสวน ทำให้ประชาชนกังขา โดยมองว่าหากดีเอสไอเข้ามาจะช่วยคลายข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของกระบวนการเลือก สว. ทั้งนี้ระบบการเลือก สว. ปัจจุบันมีปัญหาเพราะประชาชนไม่มีส่วนร่วม หากพบความผิดปกติอาจต้อง “ล้มกระดาน” แต่ก่อนจะทำเช่นนั้นควรแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว. เพื่อเปลี่ยนกติกา มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาเดิมซ้ำอีก ขณะที่น.ส.นันทนา ได้ตอบโต้กรณีที่ สว. บางกลุ่มเตรียมยื่นอภิปรายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมที่กำกับดูแลดีเอสไอ โดยมองว่าเป็นความพยายามปิดปากการตรวจสอบ หากเชื่อว่ามาอย่างถูกต้องก็ควรให้กระบวนการยุติธรรมเดินหน้าไป พร้อมย้ำว่า สว. กลุ่มพันธุ์ใหม่เป็นเสียงข้างน้อยและไม่เคยได้รับการเห็นหัวในการคัดสรรบุคคลในองค์กรอิสระหรือกรรมาธิการต่างๆ

กต.เตรียมนำประชุมไตรภาคี 3 ปท. เดินหน้าปราบอาชญากรรมข้ามชาติ

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เผยไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมไตรภาคีร่วมกับจีนและเมียนมาในเร็วๆ นี้ เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ โดยมุ่งเน้นให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมและยั่งยืน ทั้งนี้ความร่วมมือไทย-จีนในการปราบปราม – ไทยได้ประสานงานกับจีนในกรอบความร่วมมือด้านความมั่นคง เพื่อต่อสู้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ก่ออาชญากรรมในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเน้นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น เพื่อจัดการกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติอย่างจริงจัง ขณะที่การขับเคลื่อนผ่านเวทีนานาชาติ – รัฐบาลไทยผลักดันการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติผ่านการหารือกับผู้นำประเทศต่างๆ เช่น การประชุมบิมสเทคที่อินเดีย และกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (MLC) ซึ่งไทยเสนอให้เร่งปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์และค้ามนุษย์ โดยได้รับการสนับสนุนจากที่ประชุม อย่างไรก็ตามบทบาทไทยในเวทีอาเซียน – ไทยให้ความสำคัญกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการลักลอบค้ายาเสพติดและการหลอกลวงทางออนไลน์ ผ่านการประชุมหารือระดับภูมิภาค เช่น การประชุม Six Country Informal Consultation และการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งช่วยผลักดันให้การปราบปรามอาชญากรรมมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม

“ทักษิณ” ขอโทษเหตุการณ์ตากใบ ประกาศความร่วมมือแก้ปัญหาสันติสุขใต้

นายทักษิณ ชินวัตร ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน, อดีตนายกรัฐมนตรี, และตัวแทนพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาลในปัจจุบัน พร้อมคณะเดินทางเยือนโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ในระหว่างการพบปะคณะครูและอาจารย์ที่มารอต้อนรับ นายทักษิณกล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการสลายการชุมนุมที่หน้าสถานีตำรวจภูธรตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อปี 2547 โดยยืนยันว่า ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจและห่วงใยประชาชนอย่างเต็มที่ แต่ยอมรับว่าการทำงานมีความผิดพลาดบ้าง หากมีสิ่งใดที่ประชาชนไม่พอใจ ก็ขออภัยและขอให้ช่วยกันในการแก้ไขปัญหาต่อไป พร้อมกล่าวถึงการให้อภัยและความเข้าใจซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนมุสลิม “ตอนเป็นนายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจและห่วงใยประชาชน 100% แต่การทำงานก็มีผิดพลาดได้บ้าง ถ้ามีอะไรผิดพลาด ที่ไม่พอใจ ก็ขออภัยด้วย ให้ช่วยกันเพื่อแก้ปัญหา ซึ่งคนมุสลิมจะมีสิ่งที่สำคัญมาก คือ ความเข้าใจเกรงใจเเละการให้อภัย ผมก็ขออภัยด้วย” นายทักษิณกล่าว นายทักษิณยังกล่าวถึงเหตุการณ์ลอบวางระเบิดในรถยนต์เจ้าหน้าที่ ภายในสนามบินบ้านทอน อ.เมืองนราธิวาส ก่อนเดินทางถึงสนามบินว่า เป็นเพียงการแสดงเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น และแม้ว่าจะทำให้เขาตกใจ แต่ตนเองก็รู้สึกใจแข็งเนื่องจากเคยถูกลอบฆ่ามาแล้วถึง 4 ครั้ง จึงไม่รู้สึกหวั่นไหว ในส่วนของการแก้ปัญหาสันติสุขในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายทักษิณกล่าวว่า การร่วมมือระหว่างประเทศในการพูดคุยเพื่อสันติสุขจะมีมากขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนจากอินโดนีเซียที่เข้ามาช่วยในการเจรจา และคาดหวังว่าจะมีความคืบหน้าในปีนี้ นายทักษิณยังกล่าวถึงบุคคล 2 สัญชาติที่เดินทางข้ามไปมาระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้านว่า หากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย การข้ามไปมาจะไม่มีปัญหา แต่หากเกี่ยวข้องกับกิจกรรมก่อการร้าย ก็จำเป็นต้องมีความร่วมมือในการป้องกันมากขึ้น […]