จีนคาดยอดเดินทางข้ามแดน พุ่ง 27% ช่วงหยุด ‘วันแรงงาน’

สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติจีนรายงานว่าปริมาณการเดินทางข้ามพรมแดน ช่วงหยุดยาววันแรงงาน ระยะ 5 วัน (1-5 พ.ค.) มีแนวโน้มเฉลี่ยอยู่ที่ 2.15 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 27 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยคาดว่าวันที่ 1 พ.ค. และ 5 พ.ค. จะมีการเดินทางหนาแน่นมากที่สุด ทั้งนี้รายงานระบุว่าการจราจรตามท่าอากาศยานนานาชาติหลักของจีนจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง จะรับรองผู้โดยสารเดินทางข้ามพรมแดนสูงถึง 1.01 แสนครั้งต่อวัน ตามด้วยท่าอากาศยานนานาชาติกว่างโจว ไป๋อวิ๋น 50,000 ครั้งต่อวัน และท่าอากาศยานนานาชาตินครหลวงปักกิ่ง 45,000 ครั้งต่อวัน ขณะที่ปริมาณการเดินทางระหว่างแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกงและมาเก๊ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงหยุดยาววันแรงงานเช่นกัน ซึ่งเป็นอานิสงส์จากการจัดงานใหญ่ต่างๆ ของภูมิภาคเหล่านี้ อย่างไรก็ตามสำนักงานฯ กระตุ้นหน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองระดับท้องถิ่นเฝ้าติดตามการเดินทางข้ามพรมแดนอย่างใกล้ชิด และแจ้งข้อมูลเป็นประจำเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักเดินทาง รวมถึงจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้เพียงพอ เพื่อช่วยให้ระยะเวลารอข้ามพรมแดนไม่นานเกิน 30 นาที
หมอเดือด! สธ.สั่งรพ.หั่นยาแผนปัจจุบัน บังคับจ่ายสมุนไพร คนไข้เสี่ยงเจ็บหนัก!

ภายหลัง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผยแนวทางส่งเสริมการใช้ยาสมุนไพรในสถานพยาบาล ด้วยการตั้งเงินรางวัล 60 ล้านบาทสนับสนุนรพ.ที่เบิกจ่ายยาสมุนไพรแทนยาแผนตะวันตกใน 3 รายการพื้นฐาน ระหว่างเมษายน – มิถุนายน 2568 ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์ในวงการแพทย์ถึงความเสี่ยงด้านประสิทธิภาพและผลข้างเคียง เนื่องจากแพทย์แผนปัจจุบันขาดความรู้เรื่องขนาดยาและกลไกของสมุนไพร ทั้งนี้แพทย์บางรายแสดงความกังวลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า นโยบายดังกล่าวส่งผลให้โรงพยาบาลต้องถอดยาแผนปัจจุบันหลายรายการ อาทิ ยาแก้ไอ m.tussis ถูกแทนที่ด้วยมะขามป้อม, bisacodyl ถูกแทนด้วยมะขามแขก และครีมต้านไวรัส Acyclovir ถูกแทนที่ด้วยครีมพญายอ ทั้งที่สมุนไพรเหล่านี้มีข้อจำกัดเรื่องประสิทธิภาพและราคา ซึ่งบางตัวแพงกว่ายาเดิม ทั้งยังเสี่ยงต่อการประเมินไม่ผ่านหากไม่ทำตามตัวชี้วัด อย่างไรก็ตามบุคลากรทางการแพทย์เตือนว่า หากนโยบายนี้ขยายไปสู่ยาสำคัญ เช่น ยาเบาหวานหรือความดัน อาจเกิดการต่อต้านจากแพทย์ทั่วประเทศ พร้อมเรียกร้องให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเร่งทบทวนแนวทางดังกล่าว เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยและผลประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นหลัก
“ไอซ์ รักชนก” ชวน เอ๊ะ! ตึก กสทช งบ 2600 ล้าน

นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน และโฆษกคณะกรรมาธิการติดตามงบฯ โพสต์โซเชียลส่วนตัว ระบุ ตึกพันล้านร้อนๆ มาเสริฟอีกตึกแล้วจ้า รอบนี้เป็นตึก กสทช งบ 2600 ล้านบาท น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่าในยุครัฐบาลคนดีย์ ยุครัฐประหาร รัฐบาล คสช. ทำไมถึงขยันของบสร้างตึกกันฉ่ำทุกที่ วันนี้ กมธ. ติดตามงบฯ ลงพื้นที่ตึกใหม่ กสทช. ใหญ่ๆเบิ้มๆ ภายใต้งบ 2600ล้านบาท! + ค่าแบบกับค่าจ้างคุมงานอีก 100ล้านบาท ริเริ่มจ้างทำแบบตั้งแต่ปี56 แต่เริ่มสร้างตึก มกรา 62 ซึ่งจริงๆต้องเสร็จ ตั้งแต่ 65 แต่อ้างติดโควิด ไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ และปัจจุบัน กสทช. ได้บอกยกเลิกสัญญาจ้างไปแล้วด้วยเหตุผลร้อยแปดประการ ส่วนนึงเพราะ กสทช. ต้องการแก้แบบเพิ่มอีก ซึ่งแน่นอนว่าบอกเลิกสัญญาและการเปลี่ยนแบบก็ต้องควักจ่ายแพงขึ้นกว่าเดิมอีก ทาง กมธ ติดตามงบฯ ได้ขอแบบแปลนและ […]
ทรัมป์ขึ้นภาษี สะเทือนท่องเที่ยวไทย

Good Morning ASEAN (29/4/68) โดย สุชาติ ชวางกูร – อิสรีย์ ศรีวิชาญกุล ช่วงเจาะลึกอาเซียน คุณเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ)
ทวงสมบัติชาติ! เปิดรายชื่อ 6 พิพิธภัณฑ์สหรัฐฯ เป้าหมายต่อไป หลังยอมคืน ‘4 โพธิสัตว์ประโคนชัย’

หลังจากพิพิธภัณฑ์ Asian Art Museum of San Francisco มีมติถอนโบราณวัตถุ 4 ชิ้นจากการครอบครอง และเตรียมส่งคืนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ความเคลื่อนไหวครั้งนี้กลายเป็นหมุดหมายสำคัญในการทวงคืนสมบัติชาติที่ถูกลักลอบนำออกนอกประเทศ ความสำเร็จล่าสุดนี้ ไม่เพียงเป็น “ชัยชนะเชิงสัญลักษณ์” แต่ยังสร้างแรงกดดันอย่างมีนัยสำคัญไปยัง 6 พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐฯ ที่ยังคงครอบครองโบราณวัตถุไทยในกรณีเดียวกัน และอยู่ระหว่างกระบวนการทางกฎหมายเพื่อขอคืนสมบัติของชาติ รายชื่อพิพิธภัณฑ์ 6 แห่งที่ถูกจับตาอย่างใกล้ชิด ได้แก่ 1. Denver Art Museum รัฐโคโลราโด 2. Los Angeles County Museum of Art (LACMA) รัฐแคลิฟอร์เนีย 3. Asian Art Museum of San Francisco (ในกรณีวัตถุอื่นเพิ่มเติม) 4. The Norton Simon Museum รัฐแคลิฟอร์เนีย 5. The Art […]
ไทยเฮ! ‘4 โพธิสัตว์ประโคนชัย’ จ่อกลับไทย พิพิธภัณฑ์ซานฟรานฯ ยอมคืน

ข่าวดีของชาวไทยและวงการอนุรักษ์มรดกโลก เมื่อพิพิธภัณฑ์ San Francisco Asian Art Museum (SFAAM) มีมติถอน “4 ประติมากรรมสัมฤทธิ์ประโคนชัย” ออกจากบัญชีครอบครอง เตรียมส่งคืนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ หลังการประชุมครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา การประสานระหว่างกรมศิลปากรและกระทรวงการต่างประเทศกำลังเดินหน้าเต็มที่ เพื่อขนส่งสมบัติอันล้ำค่าข้ามทวีปกลับแผ่นดินแม่ กระบวนการครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญ หลังจากที่หน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ (Homeland Security Investigations: HSI) และอัยการกลางสหรัฐ ร่วมมือกับฝ่ายไทย ยื่นคำร้องต่อศาลขอหมายเรียกโบราณวัตถุที่สูญหายจากการลักลอบขุดและค้าขายผิดกฎหมายในอดีต นายทนงศักดิ์ หาญวงษ์ นักวิชาการอิสระและหนึ่งในแกนนำติดตามโบราณวัตถุไทยในต่างประเทศ กล่าวชัดว่า “นี่คือปฐมบทสำคัญ เป็นกรณีตัวอย่างที่พิพิธภัณฑ์อื่นในสหรัฐฯ ต้องจับตา และไม่อาจเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องจากประเทศไทยได้อีกต่อไป” โบราณวัตถุ 4 ชิ้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายการ 32 รายการที่ไทยได้ยื่นหนังสืออย่างเป็นทางการไปยังสหรัฐ ตั้งแต่ปี 2562 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่รู้กันว่าวัตถุเหล่านี้ถูกลักลอบขุดจากพื้นที่โบราณสถานประโคนชัย ก่อนถูกส่งขายออกนอกประเทศ ผ่านเครือข่ายนายหน้าและนักสะสมระดับโลก เช่น นายดักลาส แลชฟอร์ด และนางเอ็มมา ซี. บังเกอร์ ในขณะเดียวกัน คดีความเกี่ยวกับนายดักลาส […]
ระอุ! GOT7 ขอโทษแทนผู้จัดคอนเสิร์ต อากาเซ่ลุกฮือ กดดัน 411ent ออกมารับผิดชอบ

เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในหมู่แฟนคลับทั่วโลก หลังสมาชิกวง GOT7 ต้องออกมาขอโทษต่อเหตุการณ์ปัญหาการจัดการคอนเสิร์ตด้วยตัวเอง ท่ามกลางความสะเทือนใจของแฟนคลับ ขณะที่บริษัทผู้จัดงานยังคงนิ่งเงียบ ไร้แถลงการณ์ชี้แจงใด ๆ แฮชแท็ก #411entApologizeToGOT7 ติดเทรนด์บนแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อ Twitter) อย่างรวดเร็ว เมื่อแฟนคลับของวง GOT7 หรือ “อากาเซ่” แสดงความไม่พอใจต่อการดำเนินงานของบริษัท 411 Entertainment ผู้จัดคอนเสิร์ต “2025 GOT7 CONCERT in BANGKOK” ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นวันที่ 2-3 พฤษภาคม 2568 ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน แฟนคลับได้แสดงความกังวลต่อปัญหาหลายประการ ทั้งการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน การจัดจำหน่ายบัตรที่ไม่โปร่งใส รวมถึงความไม่พร้อมของสถานที่จัดงาน ส่งผลให้เกิดกระแสเรียกร้องให้บริษัทฯ ออกมาขอโทษศิลปินและแฟนคลับโดยเร็ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการออกแถลงการณ์ใด ๆ จากผู้จัดงาน สถานการณ์บานปลายมากขึ้น เมื่อล่าสุด “แบมแบม” หนึ่งในสมาชิกวง ได้ออกมาโพสต์ขอให้ทุกคนหยุดตำหนิโดยไม่รู้ข้อเท็จจริง ขณะที่ “เจบี”, “จินยอง” และ “มาร์ค ต้วน” ต่างออกมาโพสต์ขอโทษแฟนคลับด้วยตนเอง […]
จ่อเช็กบิล “วินธัย” ปม ม.112 “พอล แชมเบอร์ส” “วิโรจน์” ดักคอ “อย่าปิดไมค์หนี”

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร โพสต์เฟซบุ๊กประกาศเดินหน้าเชิญ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เข้าชี้แจงเพิ่มเติมในวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. ปมการแจ้งความดำเนินคดีมาตรา 112 กับนายพอล แชมเบอร์ส ท่ามกลางเสียงกดดันจากสังคมที่ตั้งคำถามต่อการใช้กฎหมายอย่างมีนัยยะ นายวิโรจน์ระบุชัดเจนว่า การชี้แจงก่อนหน้านี้ของ พล.ต.วินธัย ยังมีหลายข้อพิรุธที่ต้องคลี่คลาย โดยย้ำว่าการปรากฏตัวในที่ประชุมครั้งนี้ “ไม่ควรปิดไมค์หนี” ก่อนจบวาระ พร้อมเรียกร้องให้มีการเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสตรงไปตรงมา ในโพสต์ดังกล่าว นายวิโรจน์สรุปข้อสังเกตสำคัญ 3 ประการที่ พล.ต.วินธัยต้องอธิบายอย่างชัดเจน ได้แก่ อำนาจในการแจ้งความในนามหน่วยงานรัฐ ว่ายึดโยงกับมาตราใดใน พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 หรือไม่ เนื่องจากการกระทำในนามหน่วยงานรัฐต้องมีอำนาจตามกฎหมายรองรับอย่างเคร่งครัด ความน่าเชื่อถือของหลักฐาน โดยเฉพาะการนำข้อมูลจากเว็บไซต์ ISEAS-Yusof Ishak Institute มาใช้ยื่นแจ้งความ ซึ่งหากอ้างอิงเพียงสรรพนาม “He” อาจไม่เพียงพอสำหรับการดำเนินคดีอาญาร้ายแรงเช่นนี้ เหตุผลที่ กอ.รมน.ภาค 3 ไม่แจ้งความกับผู้เผยแพร่ต้นฉบับภาษาไทยคือบัญชีเฟซบุ๊ก […]
ไฟดับครั้งใหญ่! สเปน-โปรตุเกสวิกฤตหนัก ระบบพลังงานล่มทั้งประเทศ ปั่นป่วนสนามบิน

รัฐบาลสเปนได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในหลายพื้นที่ หลังจากเกิดเหตุไฟดับครั้งใหญ่ในหลายเมือง โดยกระทรวงมหาดไทยของสเปนระบุว่า ภาวะฉุกเฉินจะถูกบังคับใช้ในพื้นที่ที่ร้องขอ รวมถึงกรุงมาดริด, แคว้นอันดาลูเซีย และเขตปกครองตนเองเอ็กซ์เตรมาดูรา การไฟดับส่งผลกระทบต่อการจราจรและบริการสาธารณะ รวมทั้งสถานีรถไฟหลายแห่งและเที่ยวบินจำนวนมากที่ถูกยกเลิก ไฟฟ้าเริ่มกลับมาบางส่วนแล้วในสเปน โดยบริษัทเรด อิเล็กตริก้า ได้ฟื้นฟูระบบพลังงานได้ 35% และกำลังดำเนินการฟื้นฟูต่อไป ส่วนที่กรุงมาดริด ร้านค้าบางแห่งและสถานีรถไฟใต้ดินเริ่มมีไฟฟ้าใช้ แต่ยังไม่มีการเปิดให้บริการรถไฟและรถไฟใต้ดินเต็มรูปแบบ ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในโปรตุเกสยังคงไม่ปกติ เว็บไซต์ของรัฐบาลและเครือข่ายโทรศัพท์ยังไม่สามารถใช้งานได้ในบางพื้นที่ และการจราจรยังคงปั่นป่วนจากการหยุดให้บริการของรถไฟ อย่างไรก็ตาม ผู้ให้บริการไฟฟ้าในโปรตุเกสได้รายงานว่าได้ฟื้นฟูการจ่ายไฟให้กับสถานีย่อย 2 แห่งแล้ว ทำให้ลูกค้ากว่า 750,000 คนได้รับไฟฟ้าใช้งาน ยังไม่มีการยืนยันสาเหตุที่แน่ชัดของไฟดับครั้งนี้ แต่บริษัทเรเดส เอเนอเจติกัส นาซิอองนาลส์ (REN) ของโปรตุเกสกล่าวว่าเหตุการณ์อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่ผิดปกติในสเปน ซึ่งส่งผลให้เกิดการสั่นสะเทือนที่ผิดปกติในสายไฟฟ้าแรงสูง สถานการณ์นี้ยังคงสร้างความวิตกกังวลในทั้งสองประเทศ แม้ว่าไฟฟ้าจะกลับคืนมาในบางส่วนแล้ว แต่การแก้ไขปัญหายังคงต้องใช้เวลา
จ่อ “กู้เงิน 5 แสนล้าน” กระตุ้นเศรษฐกิจ-สู้ภาษีทรัมป์

จ่อ “กู้เงิน 5 แสนล้าน” กระตุ้นเศรษฐกิจ-สู้ภาษีทรัมป์